บูท อิน บูท: เคล็ดลับที่คุณควรรู้ในการใช้บูท

บูท อิน บูท

บูทอินบูทคืออะไร?

บูทอินบูท (Boot in Boot) เป็นกระบวนการหนึ่งที่ช่วยให้ระบบคอมพิวเตอร์เริ่มต้นโปรแกรมหรือระบบปฏิบัติการได้ โดยการบูทอินบูทนั้นจะทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์จากการสร้างฮาร์ดดิสก์ฟลอปปี้สตริง หรือ USB เดียวเพียงพอ โดยไม่ต้องใช้เองแผ่นระบบปฏิบัติการ การบูทอินบูทนี้มักจะเป็นการมีหรือไม่มีฮาร์ดดิสก์ หรือคุณสมบัติต่างๆที่มีเครื่องฯซึ่งสามารถใช้งานโปรแกรมหรือระบบปฏิบัติการเมื่อเป็นไปได้ ตามการตั้งค่าของผู้ใช้งานตามต้องการ โดยส่วนใหญ่เป็นการทำระบบที่มีการรวบรวมฮาร์ดแวร์ในบูทเดียว

คำสั่งในบูทอินบูทที่น่าสนใจที่สุด

การบูทอินบูทนั้นมีคำสั่งหลายอย่างที่น่าสนใจ โดยขึ้นอยู่กับระบบปฏิบัติการที่ใช้งานอยู่ แต่ในที่นี้เราจะพูดถึงคำสั่งบูทอินบูทที่สร้างความสนใจอย่างมากสำหรับระบบปฏิบัติการ Windows เช่น Windows 10 ซึ่งมี 2 คำสั่งสำคัญดังต่อไปนี้:

1. กดปุ่มหรือคีย์บอร์ด F8: การกดปุ่มหรือคีย์บอร์ด F8 ในขณะที่เครื่องคอมพิวเตอร์กำลังเริ่มต้นสาธารณะมักจะมีเมนูเลือกทางเลือกแสดงบนหน้าจอ อาจเป็นสิ่งที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าสู่ Safe Mode หรือเลือกเครื่องมือซ่อมแซมอื่นๆที่มีอยู่ ตัวอย่างเช่นเครื่องมือวินโดว์เดฟเฉลต์หรือเครื่องมือวินโดว์ก็สามารถใช้งานได้ผ่านทางเมนูนี้

2. กดปุ่มหรือคีย์บอร์ด Shift: การกดปุ่มหรือคีย์บอร์ด Shift ในขณะที่กำลังเริ่มต้นระบบ Windows 10 ระบบจะไม่โหลดฟังก์ชั่น Autostart ของโปรแกรมหรือบริการแอปพลิเคชันที่ถูกติดตั้งไว้อัตโนมัติ สิ่งนี้อาจช่วยให้ผู้ใช้สามารถดูแลและตรวจสอบปัญหาที่เกิดขึ้นกับระบบในขณะเริ่มต้นได้อย่างอิสระ

การใช้งานบูทอินบูทในการแก้ปัญหา

บูทอินบูทเพื่อการแก้ไขปัญหาเป็นวิธีหนึ่งที่อย่างประเด็นมากในการทดสอบและแก้ไขปัญหาระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อความถูกต้องและปลอดภัย การใช้ขั้นตอนในการบูทอินบูทเพื่อแก้ไขปัญหาสามารถช่วยให้ผู้ใช้งานรู้ว่าปัญหาเกิดขึ้นจากฮาร์ดแวร์หรือซอฟต์แวร์

การทำงานที่ชาญเขาของไมโครซอฟท์เมื่อมีการแก้ข้อขัดข้องในระบบของ Windows คือ STEP 1 load บูทอินบูทบนเครื่องคอมพิวเตอร์ใน Windows ก่อนเปิดการใช้งานตัวระบบ Windows เมื่อทำการบูทอินบูทเครื่องคอมพิวเตอร์จะสามารถตรวจสอบและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นกับไดรฟ์อินตราซิดของเครื่องหลักบูทอินบูทซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญตอนเริ่มต้นของกระบวนการนี้

หลังจากนั้น จะมีการทำงานในส่วนของบูทอินบูทที่แม่นยำที่สุด เรียกว่า STEP 2 post (Power-On Self Test) เมื่อเครื่องคอมพิวเตอร์สิ้นสุดขั้นตอนที่ 1 จะเข้าสู่การทำงานของเว็บเซิร์ฟเวอร์บูทเอนเจิร์นในส่วนนี้คอมพิวเตอร์จะเริ่มต้นการตรวจสอบฮาร์ดแวร์ที่ขาดหายไปหรือเสียหาย และตรวจสอบความเร็วของความจุและฮาร์ดดิสก์

หลังจากปู ทดสอบและแก้ไขคุณสามารถทำได้ด้วยตัวเองหรือหาวิธีการจากเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งคอมพิวเตอร์ในเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ไม่สามารถเข้าระบบบูทอินบูทได้มักจะตรวจพบปัญหาที่เกี่ยวข้องกับเพลิลการตัวรบ็ไป.HKD, malware หรือเครื่องคอมพิวเตอร์ที่รั่วสภาพ.นักล่าเรี่อไมโครซอฟท์ใช้ในกรณีที่ไม่สามารถทำด้วยสมาร์ทฮาร์ดดิสก์เพื่อสร้างระบบบูทอินบูทใหม่หรือกำจัดการแฮกเกอร์มัลแวร์

ภาษาที่ใช้ในบูทอินบูท

ภาษาที่ใช้ในบูทอินบูทใช้ภาษาซีและภาษาแอสเซมบลีและสแคลปซ์และใช้เชิงตาราง หรือเครื่องหมาย + ในการเติมสิ่งที่ขาดหายไปให้เติมเข้าไป

ข้อดีและข้อเสียของการใช้บูทอินบูท

การใช้บูทอินบูทนั้นมีข้อดีและข้อเสียในการใช้งานของมัน ดังนี้:

ข้อดี:
1. ใช้งานง่ายและสะดวก: กำหนดคำสั่งบูทอินบูทและเครื่องคอมพิวเตอร์จะรันทันทีเมื่อเริ่มต้น สามารถติดตั้งและใช้งานง่ายต่อผู้ใช้ที่ไม่มีความเชี่ยวชาญในระบบคอมพิวเตอร์ได้

2. ช่วยแก้ไขปัญหา: บูทอินบูทช่วยในการแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในระบบคอมพิวเตอร์ เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ไม่ตอบสนอง หรือสูญเสียข้อมูล ผู้ใช้จะสามารถเข้าถึงเครื่องมือและฟังก์ชั่นต่างๆเพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้

3. ตรวจสอบฮาร์ดแวร์: บูทอินบูทช่วยในการตรวจสอบฮาร์ดแวร์ของเครื่องคอมพิวเตอร์ โดยทำให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบความสมบูรณ์และความเร็วของฮาร์ดดิสก์ และอื่นๆได้

ข้อเสีย:
1. ข้อมูลที่สูญหาย: หากเครื่องคอมพิวเตอร์มีปัญหาฮาร์ดแวร์ร้ายแรงถึงขั้นที่ต้องใช้บูทอินบูท ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับระบบปฏิบัติการหรือแอปพลิเคชันบางอย่างอาจหายไป

2. ความเสียหาย: บูทอินบูทอาจเป็นสาเหตุให้ฮาร์ดแวร์หลุดจากเส้นสายหรือผลิตภัณฑ์ประกอบอันอ่อนแอ ซึ่งอาจส่งผลให้เครื่องคอมพิวเตอร์เสียหายได้

สาเหตุที่บูทอินบูทล้มเหลวและวิธีการแก้ไข

มีสาเหตุหลายประการที่บูทอินบูทอาจล้มเหลว และวิธีการแก้ไขมีดังนี้:

1. ไดรฟ์บูทเดียวที่มีข้อมูลบูทไม่ถูกต้อง: ถ้าบูทอินบูทไม่สามารถค้นหาไดรฟ์บูทที่ถูกต้อง หรือเครื่องคอมพิวเตอร์ไม่อ่านข้อมูลบูทได้อย่างถูกต้อง แนะนำให้ตรวจสอบการตั้งค่าบูทที่ถูกต้องและรีเซ็ตบูทไดรฟ์เป้าหมายเป็นแหล่งบูทแทน

2. ข้อความบูทผิดพลาดหรือสถานะบูทไม่ถูกต้อง: คำสั่งบูทอินบูทและบูทลึกอาจถูกแก้ไขไม่ถูกต้อง แนะนำให้ตรวจสอบให้แน่ใจว่าตัวกำหนดบูทที่กำหนดไว้ถูกต้องและประสิทธิภาพมากเพียงพอ

3. ฮาร์ดแวร์เสียหายหรือข้อผิดพลาดของไดรเวอ