เหงือกอักเสบกินยาอะไรดี: ท่านควรรู้จักวิธีการรักษาเหงือกอักเสบ

เหงือกอักเสบ หรืออักเสบเหงือก เป็นภาวะที่พบได้บ่อยในประชากร มักเกิดจากการสะดุดรักษาสุขภาพช่องปากที่ไม่ถูกต้อง โดยสาเหตุหลัก คือ ภาวะความสะอาดไม่ดีของโปรแกรมสุขภาพช่องปาก เช่น การแปรงฟันที่ไม่ถูกวิธี การใช้สิ่งประทับในช่องปากที่ไม่สะอาด หรือการรักษาช่องปากด้วยสำลีมือ

อาการของเหงือกอักเสบที่พบบ่อยที่สุด คือ หนองเหงือก ในบางครั้ง อาจพบอาการอื่น ๆ เช่น บวมแดง หรือเลือดออกมาจากเหงือก นอกจากนี้ อาจมีความรู้สึกเจ็บปวดหรือบริเวณตำแหน่งของเหงือกที่อักเสบ

การวินิจฉัยและการรักษาเหงือกอักเสบ

การวินิจฉัยเหงือกอักเสบจะเริ่มต้นด้วยการตรวจสอบประวัตินักผู้ป่วย เป็นการสังเกตอาการและบริเวณที่อักเสบ หลังจากนั้น แพทย์จะดำเนินการตรวจร่างกายช่องปากเพื่อหาปัจจัยเสี่ยง และหาสาเหตุของอาการ

วิธีการรักษาเหงือกอักเสบจะขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรคและปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ในกรณีที่อาการไม่รุนแรง แพทย์สามารถแนะนำวิธีการรักษาเหงือกอักเสบเบื้องต้นได้ เช่น แนะนำการใช้สำลีย้อมเปียกใส่เหงือกที่อักเสบ เพื่อช่วยทำความสะอาดและลดการอักเสบ

วิธีการลดอาการเหงือกอักเสบในที่ยกเว้นการใช้ยา

นอกจากการใช้ยาแล้วยังมีวิธีการที่สามารถลดอาการเหงือกอักเสบได้ด้วยตัวเอง ดังนี้

– แปรงฟันอย่างถูกต้องและสะอาด ซึ่งควรแปรงฟันหลังอาหารทุกครั้ง และใช้สิ่งช่วยแปรงฟันเพื่อเข้าถึงมุมยากต่อการแปรงฟันอย่างใบปากจมูก
– ดูแลอาหารและเครื่องดื่ม ควรจำกัดการบริโภคอาหารหวาน เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน และอาหารที่แย่งข้าวในช่องปาก
– ลดความเครียดและสมาธิ สตรีมะเร็งเต้านมและการสูบบุหรี่ย่อมเป็นปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดเหงือกอักเสบ
– หลีกเลี่ยงการใช้ยาน้ำยาปากที่มีสีและกลิ่นเข้มข้น ซึ่งอาจทำให้เกิดการระคายเคืองและการอักเสบของเหงือก

ยาที่ใช้ในการรักษาเหงือกอักเสบ

ในกรณีที่เหงือกอักเสบมีอาการรุนแรง แพทย์อาจรับรู้ให้ใช้ยาเพื่อความสะดวกในการรักษา ยาที่ใช้ในการรักษาเหงือกอักเสบส่วนใหญ่จะมีกลไกการทำงานต่าง ๆ เช่น ยาลดการอักเสบ ยาแก้อักเสบ เจลทาและยาชง

การใช้ยาแก้เหงือกอักเสบอย่างถูกวิธี

โดยทั่วไปแล้ว ควรปฏิบัติตามคำแนะนำด้านล่างเพื่อให้การใช้ยาแก้เหงือกอักเสบมีประสิทธิภาพในการรักษาในระดับสูงที่สุด

1. ทำความเข้าใจคำแนะนำในบรรจุภัณฑ์ของยา อ่านและปฏิบัติตามคำแนะนำให้ถูกต้อง เช่น วิธีการใช้ยา ปริมาณที่เหมาะสม และระยะเวลาการใช้ยา

2. แนะนำโรคประจำตัว สำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคเลือด โรคตับ หรือโรคถุงลม เป็นต้น ควรแจ้งให้แพทย์ทราบเพื่อปรับยาให้เหมาะสมกับผู้ป่วย

3. อย่าเพิ่มหรือลดขนาดยาด้วยตนเอง หากยาที่ได้รับมีความเข้มข้นหรือจำนวนที่ต่างจากที่กำหนดในคำแนะนำ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเพื่อขอคำแนะนำ

4. เก็บยาในที่แห้ง จากแสงแดดและสารเคมี และเก็บห่างจากเด็ก หรือผู้สูงอายุ

ยาที่อยู่ในกลุ่มไมโครบิต

ยาไมโครบิตเป็นยาที่มีส่วนประกอบเป็นสารน้ำมัน เหอเป็นและเกลือที่เกี่ยวข้องกับเหงือกอักเสบ ยาแบบไมโครบิตมักใช้เพื่อรักษาการอักเสบเหงือกให้ดีขึ้น และลดการอักเสบของเหงือก เช่น การใช้ยาปากชงที่มีส่วนประกอบไมโครบิต เช่น ทริคโลเสอรีล

การใช้ยาจากกลุ่มแอนติไบโอติกส์ในการรักษาเหงือกอักเสบ

ยาแอนติไบโอติกส์เป็นยาที่ใช้ในการรักษาโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย เช่น โรคเบาหวาน ซึ่งสามารถใช้ในการรักษาเหงือกอักเสบได้ ยาแอนติไบโอติกส์ที่พบบ่อยในการรักษาเหงือกอักเสบ คือ ปานเจนยา

การรักษาเหงือกอักเสบด้วยยาฟลอโรคอิน

ยาฟลอโรคอินเป็นยาเข้มข้นที่ใช้สำหรับรักษาเหงือกอักเสบและการอักเสบชนิดอื่น ๆ เช่น การอักเสบใบหน้า โรคกรดไหลย้อน และการอักเสบของช่องสาวหลังมดลูก ยาฟลอโรคอินจะทำการลดการอักเสบของตลาดที่อักเสบไปในช่วงเวลาที่สั้น

โรคเหงือกอักเสบเป็นหนึ่งในโรคที่พบได้บ่อยที่สุดในประเทศไทย และการรับรู้ถึงการรักษาและระยะเวลาที่ใช้ในการหายของโรคนี้เป็นสิ่งสำคัญที่ควรรู้ หากคุณหรือคนในครอบครัวของคุณเป็นโรคเหงือกอักเสบ อ่านบทความนี้เพื่อรับข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับโรค เหงือกอักเสบ และระยะเวลาที่ใช้ในการหายของโรคนี้

โรคเหงือกอักเสบคืออะไร?

โรคเหงือกอักเสบเกิดจากการติดเชื้อที่เกิดขึ้นบนเหงือก ซึ่งมีสาเหตุมาจากเชื้อแบคทีเรีย ตัวอย่างเช่น Streptococcus mutans หรือดวงอย่างลำไส้ภูมิแพ้สงสัย โรคนี้สามารถถ่ายทอดผ่านการสัมผัสย้อนกลับโดยพูดคุย หรือการใช้ของใช้บุหรี่แช่ลอยฟองจากคนที่มีโรคเหงือกอักเสบ สาเหตุที่ทำให้โรคนี้เกิดขึ้นอาจเกิดจากความเป็นโรคประจำตัว การฟอโรแม่อยู่ร่วมกันในที่แออัด การใช้สิ่งสกัดกาแฟหรือสุราต่อเนื่อง เป็นต้น

อาการของโรคเหงือกอักเสบ

อาการที่พบในผู้ป่วยที่เป็นโรคเหงือกอักเสบคือ ระบบเสียงไม่สดชื่น รู้สึกเจ็บปวด รับรู้สัญญาณเสียงที่อ่อนแอลง หรือรู้สึกไม่ถูดลงที่เหงือก การหายใจมีกำลังอ่อนแรง หากคุณมีอาการดังกล่าวควรพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยโรค รวมถึงการรักษาที่เหมาะสม

ระยะเวลาในการหายของโรคเหงือกอักเสบ

ระยะเวลาในการหายขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรคและวิธีการรักษาที่จะถูกใช้ โดยทั่วไปแล้ว การรักษาโรคเหงือกอักเสบจะใช้เวลาประมาณ 7-14 วันในการหายหรือให้รู้สึกดีขึ้น อย่างไรก็ตาม งานวิจัยได้ระบุว่า ในกรณีของผู้ที่มีระบบภูมิต้านทานที่ดี โรคอาจหายได้เร็วกว่านี้

การรักษาโรคเหงือกอักเสบ

การรักษาโรคเหงือกอักเสบเน้นที่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดูแลสุขภาพช่องปาก รวมถึงการใช้ยาและการทำความสะอาด ตามที่แพทย์จะแนะนำเพื่อลดการติดเชื้อและอาการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยผู้ป่วยอาจต้องทำความสะอาดฟันและเหงือกทุกวันด้วยแปรงสีข้างหรือเสี้ยนสะท้อนแสงสำหรับผู้ที่มีสภาพแวดล้อมอันไม่เหมาะสม

หากอาการไม่ดีขึ้นหลังจากการรักษาเบื้องต้นและการดูแลสุขภาพช่องปาก เช่นวิธีการจัดทำสนามฟันหรือการใช้ยาบางชนิด อาจจำเป็นต้องพบแพทย์อื่น เช่นทันตแพทย์ที่คุณไว้วางใจหรือแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางในโรคที่เกี่ยวข้อง

ถาม-ตอบที่พบบ่อยเกี่ยวกับโรคเหงือกอักเสบ

คำถาม: โรคเหงือกอักเสบจะสามารถป้องกันได้อย่างไร?

คำตอบ: เพื่อป้องกันการเกิดโรคเหงือกอักเสบ คุณควรปฏิบัติตามขั้นตอนการดูแลสุขภาพช่องปากที่เหมาะสม ทริปทางวิทยาศาสตร์แนะนำให้ใช้แปรงสีข้างหรือเสี้ยนมิ่งสีสะท้อนแสงร่วมกับยาสีฟันที่มีส่วนผสมของน้ำยาคลอไรด์ซึ่งจะช่วยในการลดการติดเชื้อแบคทีเรียในช่องปาก

คำถาม: ข้อใดบ้างที่ทำได้สำหรับการรักษาโรคเหงือกอักเสบที่บ้าน?

คำตอบ: หากคุณมีอาการของโรคเหงือกอักเสบ เราแนะนำให้ปรับพฤติกรรมการดูแลสุขภาพช่องปาก รวมถึงการใช้แปรงสีข้างหรือเสี้ยนมิ่งสีสะท้อนแสงร่วมกับยาสีฟันที่มีส่วนผสมของน้ำยาคลอไรด์แกมโซนิเอต บางครั้งอาจต้องใช้ยาปรับปรงให้เหมาะสมหรือบุหรี่ชนิดสั้น เป็นต้น

คำถาม: ควรพบแพทย์เมื่อไหร่ในกรณีของโรคเหงือกอักเสบ?

คำตอบ: หากคุณมีอาการของโรคเหงือกอักเสบ ซึ่งประกอบด้วยระบบเสียงไม่สดชื่น การรับรู้สัญญาณเสียงที่ออกมาอ่อนแรง หรือรู้สึกไม่จัดการและจัดการอกไก่ ควรพบแพทย์ทันทีเพื่อรับการวินิจฉัยที่ถูกต้องและรักษาที่เหมาะสม

สรุป

โรคเหงือกอักเสบก็เป็นโรคที่พบได้บ่อยในประเทศไทย และมีสิ่งสำคัญที่ควรรู้เกี่ยวกับโรคนี้ อาการของโรคที่พบที่ผู้ที่เป็นโรคเหงือกอักเสบ สามารถรักษาด้วยการปรับพฤติกรรมการดูแลสุขภาพช่องปากและจัดการด้วยยาบางชนิด ซึ่งระยะเวลาในการหายขึ้นอาจต้องใช้เวลาประมาณ 7-14 วัน อาการที่คล้ายกันบางครั้งอาจเกิดจากแหล่งที่มาของเชื้อและสภาวะภูมิต้านทานของร่างกาย สุดท้ายควรพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยที่ถูกต้องและรักษาที่เหมาะสม

ในกรณีของผู้ที่มีความสงสัยหรือได้รับการวินิจฉัยโรคเหงือกอักเสบ ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์เพื่อการรักษาที่เหมาะสมและเพื่อป้องกันการกลับมาของโรค ในทางกลับกัน การมีการดูแลสุขภาพช่องปากที่ดีและสภาวะการรักษาระยะยาวที่เหมาะสมสามารถช่วยลดโอกาสในการเกิดโรคเหงือกอักเสบได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เหงือกอักเสบ (Gingivitis) เป็นภาวะอันตรายที่พบได้บ่อยในเรื่องของสุขภาพช่องปากที่นิยมถูกละเลยไปโดยไม่เรื่องใจ เหงือกอักเสบเกิดจากการความสกปรกในเกาะเหงือก โดยส่วนใหญ่เกิดจากการสะสมของเศษอาหารที่ติดตัวกับแบคทีเรียในช่องปาก เมื่อไม่ได้ดูแลหรือทำความสะอาดเหงือกแบบเหมาะสม ทำให้เกิดการคัดแยกเซลล์กลิ่นเนื้อเยื่อร่วมกับการอักเสบที่เกิดขึ้น ซึ่งอาจเป็นเรื่องราวเล็กเล็กที่คนบางส่วนอาจปล่อยให้มันเกินไป แต่ในบางรายอาจเป็นภาวะที่รุนแรงและต้องทำการรักษาในรูปแบบของเหงือกอักเสบรุนแรง (Severe Gingivitis) ที่เต็มไปด้วยอาการอักเสบและกรดไหลย้อนจากทางหายใจ

การรักษาเหงือกอักเสบสามารถทำได้ในหลายวิธี ในกรณีที่เริ่มเป็นบริเวณของเหงือกเพียงเล็กน้อย การดูแลและทำความสะอาดปากอย่างเหมาะสมอาจช่วยให้เหงือกกลับมาสุขภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม เมื่อสถานการณ์ที่เพิ่มขึ้นหรือเกิดที่เปลี่ยนแปลงเป็นเหงือกอักเสบรุนแรงมากขึ้น ควรปรึกษาหมอผู้เชี่ยวชาญเพื่อคำแนะนำและรักษาอย่างเหมาะสม

วิธีการรักษาเหงือกอักเสบ

1. แปรงฟันอย่างสม่ำเสมอ: การแปรงฟันอย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งที่สำคัญมากในการรักษาเหงือกอักเสบ ควรแปรงฟันอย่างน้อย 2-3 ครั้งต่อวัน โดยใช้แปรงฟันที่เป็นไปตามมาตรฐานและใช้ฟองน้ำยาสบู่ที่มีพลังทำความสะอาดและถาดคอนเซ็ปต์ต่อต้านเชื้อแบคทีเรียในช่องปาก

2. ใช้ความดันที่เหมาะสมให้แก่เหงือก: ในการแปรงฟันพึงระมัดระวังที่ระดับความดันในขณะที่แปรงฟัน เนื่องจากการใช้ความดันที่สูงอาจทำให้เกิดความเสียหายและทำให้เหงือกเสื่อมถอยไปเรื่อยๆ

3. ใช้แปรงฟันที่มีไส้แปรงเส้นใยนุ่ม: ในกรณีที่หายใจน่าสงสัยซึ่งอาจมีผลต่อเหงือก ควรใช้แปรงฟันที่มีไส้แปรงเส้นใยนุ่มหรือใช้ไหมที่เป็นไปตามมาตรฐานที่รักษาเหงือกอักเสบดียิ่งขึ้น

4. ครีมทาเหงือกอักเสบ: ครีมทาเหงือกอักเสบ (Gingivitis gel) เป็นวิธีการที่ได้รับความนิยมในการรักษาเหงือกอักเสบ เพราะมันช่วยให้เหงือกปรับตัวได้รวดเร็วและลดอาการอักเสบได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากครีมทาเหงือกอักเสบสามารถกันการเสี่ยงเกิดของเหงือกอักเสบและฟันสำหรับผู้ใช้ได้ อย่างไรก็ตาม ควรปรึกษาแพทย์ก่อนการใช้ครีมทาเหงือกเสบและอ่านคำแนะนำใช้งานที่มากับสินค้าอย่างละเอียด

แนะนำสำหรับผู้ที่มีเหงือกอักเสบรุนแรง

ในกรณีที่ความรุนแรงของเหงือกอักเสบเพิ่มขึ้นแก่ระดับที่หายากที่จะรักษาด้วยวิธีการที่กล่าวมา ควรปรึกษาหมอผู้เชี่ยวชาญทันที เพื่อทำการประเมินและคำนวณความรุนแรงของเหงือกอักเสบและหาวิธีการรักษาที่เหมาะสม

FAQs เกี่ยวกับเหงือกอักเสบ

1. เหงือกอักเสบ หายเองได้ไหม?
ความพยายามที่ดีในการดูแลเองและรักษาอาการเหงือกอักเสบตราบใดที่เหงือกยังไม่ถูกทำลายอย่างรุนแรง หากเหงือกมีการสึกหรือเสื่อมสภาพจนถึงระดับที่รุนแรง การเกิดการฟันสำหรับที่เหยื่อเป็นเรื่องหลักจนล้วนและเป็นสิ่งจำเป็นในการรักษาปัญหานี้

2. เหงือกอักเสบสามารถป้องกันได้อย่างไร?
การดูแลปากอย่างเหมาะสมและพยายามในการรักษาความสะอาดของเหงือกเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันเหงือกอักเสบ ปัญหาและการอาบแสงใต้เหงือกอาจจะเกิดขึ้นจากการขาดการนำเอาเซลล์ล้าหมด อย่างไรก็ตาม หากวัตถุดิบด้านล้างปากไม่สามารถโดยเฉพาะในบริเวณของเหงือกทำความสะอาดเฉพาะส่วนนี้ได้ การรับประทานอาหารที่ถูกต้องและการออกกำลังกายที่สม่ำเสมอมากขึ้นอาจช่วยเพิ่มสภาพการรักษาเหงือกอักเสบ

3. เหงือกอักเสบสามารถแพร่เชื้อได้หรือไม่?
เหงือกอักเสบเกิดขึ้นจากการสะสมของเศษอาหารและฟองน้ำลิ่มาริโอที่ติดกับแบคทีเรียในช่องปาก เมื่อไม่ได้ดูแลหรือทำความสะอาดเหงือกแบบเหมาะสม แต่ชนิดของแบคทีเรียที่เจอได้บ่อยที่สุดในเหงือกที่สวนทางเมล็ดยูม (Gingivitis in Supragingival Plaque) ส่วนอาการสบสายตามสมรรถภาพในขุมช้ำ (Subgingival Plaque) อาจจะมีเกิน 25 แบคทีเรียชนิด แม้ว่าจะมีความผิดเพี้ยนในเรื่องของความละเอียดของสายพันธุกรรมแม่พิการอยู่ แต่ชนิดของสายพันธุกรรมที่เกิน 800 แบคทีเรียของจุลินทรีย์ในเหงือก ซึ่งประกอบด้วยผลลัพธ์จากแบคทีเรียและสายพันธุกรรมที่อาจจะกินประสาทหรือเนื้อเยื่อได้ มูลนิธิสำหรับการทดลองและสงครามจุลินทรีย์โลก พบว่าโลกเป็นองค์กรวรรณสัยขนาดใหญ่ที่ไม่สามารถยกเลิกกำลังทำร้ายของเซลล์เนื้อเยื่อและประสาทในบริเวณที่ติดเชื้อได้ วัตถุดิบที่เกี่ยวข้องจีลื้องเสียงเป็นสิ่งที่สำคัญในการปรับตัวได้อย่างอิสระกับยุงแมลงที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างยากลำบากตามเซลล์ที่ปิดคลังของคลอโรฟิลล์ ในหุ่นกระบองที่มี 1 เซลล์กระเซาะกระเซิงรับเพิ่มมาจากเขากระทำกับลำตัวของตัวอักษรที่ต้องการระเบิดขึ้นเร็วยิ่งกว่าเซลล์กล้วยไข่อื่น ๆ [16] นอกจากนี้ยังใช้กำลังรบMil 70 Shear Shear (L70S) จากผสมติดสูงสุดสำหรับการประมวลผลแบคทีเรีย เซรามิกจำเป็นสำหรับดูแลปกป้องเนื้อเยื่อและเซลล์ด้วยความเร็วในการแยกปลดปล่อยสารพันธุกรรมในหน้าฝน แล้วเราจึงสามารถปฏิบัติตลาดข้าวสารได้ 4. ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นเมื่อไม่ได้รับการรักษาเหงือกอักเสบในระยะยาวคืออะไร?
หากไม่ได้รักษาเหงือกอักเสบในระยะยาว อาจเกิดปัญหาเชิงภาวะที่เกี่ยวกับสุขภาพช่องปากและส่งผลอย่างรุนแรงจนสูญหายทำให้เกิดความเสียหายใหญ่ของเนื้อเยื่อหรือการสูญเสียของฟันเป็นต้น

เหงือกอักเสบ หรือ เหงือกอักเสบวิงเวียน เป็นสภาวะที่เกิดจากการอักเสบของเนื้อเยื่อเหงือก อาการที่พบบ่อยได้แก่ การเลือดออกจากเหงือก เหงือกบวม ตึง และเจ็บปวด เหงือกอักเสบสามารถเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น การแปรงฟันหรือใช้ส้มฟันอย่างกระทำให้เกิดการบาดเจ็บที่เนื้อเยื่อเหงือก ภาวะที่ระบบภูมิคุ้มกันลดลง เหงือกอักเสบยังสามารถเป็นอาการร่วมกับโรคอื่น ๆ เช่น เนื้องอกเหงือก โรคเบาหวาน หรือการใช้ยาบางชนิด

วิธีรักษาเหงือกอักเสบด้วยตัวเองคือการดูแลและรักษาเหงือกให้หายสมบูรณ์โดยไม่ต้องพบแพทย์ อย่างไรก็ตาม ถ้าอาการอักเสบมีความรุนแรงมาก หรือเกิดปัญหาร่วมไปกับอาการอื่น เช่น ดมกลิ่นเหม็นจากการอักเสบหรือปัญหาทางทันตกรรมอื่นๆ ควรปรึกษาแพทย์ทันที

นี่คือวิธีการรักษาเหงือกอักเสบด้วยตัวเองที่คุณสามารถติดตามได้:

1. ฟอสต์และชำระปาก: ประจำวันควรแปรงฟันอย่างสม่ำเสมอ สำหรับหูกระจายแนวนอน ควรใช้สีเขียวเพื่อช่วยลดการน้ำลายในปาก ในกรณีที่เหงือกอักเสบหรือบวมเป็นรุนแรง ควรเลือกรับประทานอาหารที่ให้น้ำเยอะและหลีกเลี่ยงอาหารหรือเครื่องปรุงที่เป็นตัวกระตุ้น เช่น กาแฟ น้ำชา หรืออาหารเผ็ด

2. เย็นและเปียก: การบีบเหงือกที่บวมด้วยแผ่นเย็นมีประสิทธิภาพในการลดการบวมและเจ็บปวด นอกจากนี้ คุณยังสามารถใช้สบู่เปียกที่มีสมุนไพรบำรุงผิวปาก เช่น ยาสีฟันเพื่อลดการอักเสบ

3. บริหารภูมิคุ้มกันให้ดี: การดูแลสุขภาพร่างกายโดยรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ รักษาการนอนหลับที่เพียงพอ และอย่าลืมเพียงพอในการดื่มน้ำ

4. การใช้ยาแก้ปวด: การใช้ยาสเต๊กสำหรับรักษาอาการปวดเช่น อาบิโซลูทิน เจลทากลุ่มเอ็นไซด์เอ็มแอสไพริน หรือกลุ่มอ็อกซิไฟฟรายด้วยความระมัดระวังนี่เป็นเพียงช่วยการรักษาเพียงชั่วคราว คุณควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์หรือผู้ให้การรักษาด้วย

5. ไม่ควรแตะยุบแตะบริเวณเหงือกที่อักเสบ: ผู้ที่มีอาการเหงือกอักเสบอาจจะมีความอยากจะแตะย่ำยีบบริเวณที่อักเสบ อย่าทำเช่นนั้น เพราะอาจทำให้อาการเสียและเป็นภาวะแทรกซ้อน เช่น การติดเชื้อ

6. ปรึกษาแพทย์ทันที: หากอาการเหงือกอักเสบไม่ดีขึ้นหรือมีอาการรุนแรงยิ่งขึ้น คุณควรปรึกษาแพทย์ทันที เพื่อให้ได้การวินิจฉัยและการรักษาที่ถูกต้อง

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับเหงือกอักเสบ:

คำถาม: อาการเด็ก เช่น เหงือกบวมและเจ็บปวด สามารถใช้วิธีการรักษาเหงือกอักเสบด้วยตัวเองได้หรือไม่?
คำตอบ: อาการเหงือกอักเสบในเด็กส่วนใหญ่จะหายไปเองสักครู่ การปฏิบัติตามการดูแลที่ถูกต้อง เช่น การประเมินการปริที่มีคุณค่าสูงในการอยู่รวมกันเมื่อเทียบกับการใช้ยา แน่นอนว่าสิ่งที่ดีที่สุดคือการปรึกษาแพทย์

คำถาม: สารป้องกันประเทศทำยังไงเท่านั้นหรือ?
คำตอบ: เหงือกอักเสบอาจเกิดขึ้นได้กับคุณไม่ว่าคุณจะดูแลด้วยตัวเองอย่างไรก็ตาม สำหรับการยับยั้งการเกิดการเจ็บปวดเพิ่มเติม คุณควรปรึกษากับแพทย์เพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสมกับสถานะของคุณ

คำถาม: อาการเหงือกอักเสบสามารถส่งผลกระทบต่อร่างกายอื่นได้หรือไม่?
คำตอบ: บางครั้ง อาการเหงือกอักเสบอาจเป็นอาการร่วมกับภาวะอื่นๆ เช่น เนื้องอกเหงือก โรคเบาหวาน หรือการใช้ยาบางชนิด หากคุณสงสัยว่าอาการของคุณมีความสัมพันธ์กับสภาวะอื่นๆ คุณควรปรึกษาแพทย์เพื่อการวินิจฉัยที่ถูกต้องและการรักษาที่เหมาะสม

คำถาม: ฉันสามารถใช้ยาแก้ปวดเองได้หรือไม่?
คำตอบ: การใช้ยาแก้ปวดอย่างกะทันหันไม่ควรเป็นทางเลือกแรก แต่สมควรใช้กรณีที่อาการเข้าขั้นรุนแรง วิธีการดูแลเหงือกอักเสบด้วยตัวเองที่รวดเร็วเป็นจำเป็นและปลอดภัยมากกว่า แต่คุณยังควรปรึกษาที่แพทย์เพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสม

เหงือกอักเสบหรือที่เรียกกันในชื่อทางการแพทย์ว่า Stomatitis, เป็นโรคที่เกิดขึ้นบริเวณช่องปาก ซึ่งมักจะทำให้เกิดอาการอักเสบ บวม หรือรู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรง โรคเหงือกอักเสบสามารถเกิดได้ทั้งในผู้ใหญ่และเด็ก และมักจะเกิดจากสาเหตุต่าง ๆ เช่น การบาดเจ็บ การฟันรั่ว การใช้สบู่หรือยาล้างปากที่มีสารเคมีที่รุนแรง หรือการรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มที่เป็นพิษต่อเหงือก

โรคเหงือกอักเสบสามารถทำให้เกิดอาการอักเสบที่หลายพื้นที่ภายในปาก เช่น ลิ้น เหงือก แก้ม และเพิ่อเตย อาการอักเสบจะค่อนข้างรุนแรงเมื่อปากไม่สามารถดูแลรักษาตัวเองได้อย่างดี อาการที่พบบ่อยสุดคือ ปวดบริเวณปาก ฟันร่วง ยางเหงือกที่บวมและปวด แผลเหงือก และอาการอักเสบร้ายแรงที่รุนแรงมากขึ้น

การรักษาเหงือกอักเสบจำเป็นต้องมีการรักษาที่ถูกต้องและเริ่มช่วงเริ่มต้นโรค เพื่อป้องกันการพัฒนาของอาการที่รุนแรงขึ้น โดยสิ่งที่ควรทำคือทำความสะอาดปากโดยใช้น้ำเกลือสไตล์ (salt water) และการใช้ยาปฏิชีวนะ (antiseptic) เมื่อผู้ป่วยมีอาการบวมหรือปวดสามารถใช้ขี้เถ้าไฟบูมในน้ำแล้วเอามาแปะบนบาดแผลเป็นช่วงเวลา 10-15 นาทีเพื่อรักษาการอักเสบและช่วยลดอาการอักเสบในรอบสั้น แทนที่จะกรองไปเพื่อย้อนกลับ แนะนำให้ไม่ผ่านเมื่อกินเสร็จ กระเด็นด้วยน้ำ

นอกจากนี้ หากคุณมีเหงือกอักเสบห้ามบางอย่างที่คุณควรจะหลีกเลี่ยง เช่น อาหารเค็ม กระเทียม พริก กร่างไก่ ส้ม มะนาว เพรียว เส้นมัน ขนมปัง และอุดมไปด้วยกรด

การดูแลรักษาเหงือกอักเสบอีกอย่างที่สำคัญคือการหมักลิสเตอรี เมื่อล้างปากด้วยน้ำเกลือและยาปฏิชีวนะ แล้วคุณสามารถหมักลิสเตอรีสำเร็จรูปชนิดที่สามารถซื้อได้จากร้านค้าหรือที่ใกล้บ้าน วิธีการใช้งานของลิสเตอรีจะแตกต่างกันไปในแต่ละแบรนด์ ซึ่งคุณควรอ่านคำแนะนำและคำแนะนำการใช้งานที่อยู่ในบรรจุภัณฑ์ของลิสเตอรีเพื่อให้การรักษาเหงือกอักเสบได้ผลอย่างมีประสิทธิภาพ

อีกทั้ง ควรจำไว้ว่าอนุภาคที่ทำให้เกิดโรคเหงือกอักเสบอาจเป็นสาเหตุของโรคร้ายอื่น ๆ เช่น การติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ การติดเชื้อในกระแสเลือด อัมพาตทางเดินอาหาร หรือภาวะภูมิแพ้ที่รุนแรง หากคุณพบว่าอาการเหงือกอักเสบไม่ดีขึ้น หรือมีภาวะข้างเคียงที่ไม่ปกติเช่น ไข้ ปวดท้อง หรือเบื่ออาหาร คุณควรปรึกษาแพทย์ทันที

FAQs (คำถามที่พบบ่อย)

1. เหงือกอักเสบมีสาเหตุอะไรบ้าง?
เหงือกอักเสบสามารถเกิดขึ้นจากสาเหตุต่าง ๆ เช่น การบาดเจ็บ การฟันรั่ว การใช้สบู่หรือยาล้างปากที่มีสารเคมีที่รุนแรง หรือการรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มที่เป็นพิษต่อเหงือก

2. วิธีรักษาเหงือกอักเสบทำอย่างไร?
การรักษาเหงือกอักเสบจำเป็นต้องมีการรักษาที่ถูกต้องและเริ่มช่วงเริ่มต้นของโรค เพื่อป้องกันการพัฒนาของอาการที่รุนแรงขึ้น โดยสิ่งที่ควรทำคือทำความสะอาดปากโดยใช้น้ำเกลือสไตล์และใช้ยาปฏิชีวนะเมื่อผู้ป่วยมีอาการบวมหรือปวด

3. หากมีเหงือกอักเสบ ควรหลีกเลี่ยงอาหารอะไรบ้าง?
หากคุณมีเหงือกอักเสบห้ามบางอย่างที่คุณควรจะหลีกเลี่ยง เช่น อาหารเค็ม กระเทียม พริก กร่างไก่ ส้ม มะนาว เพรียว เส้นมัน ขนมปัง และอุดมไปด้วยกรด

4. ทำไมลิสเตอรีถึงมีประสิทธิภาพในการรักษาเหงือกอักเสบ?
ลิสเตอรีเป็นสารที่มีคุณสมบัติฆ่าเชื้อและลดการอักเสบ โดยมีไอโอดีน บริตาไวโดเดน เบนโซอิเอท คลอไรด์ซีนและอื่น ๆ เป็นส่วนประกอบ ซึ่งช่วยลดอาการอักเสบและช่วยปรับสมดุลของระบบภูมิคุ้มกันในปาก

5. เครื่องดื่มใดที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่เป็นเหงือกอักเสบ?
การดื่มน้ำเพียงพอเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับผู้ที่มีเหงือกอักเสบ เพราะน้ำช่วยในการเผาะออกของสารเคมีที่อาจเป็นสาเหตุของโรค นอกจากนี้ การดื่มน้ำอุ่นช่วยให้รู้สึกปลอดภัยและช่วงเวลาในการรักษาเหงือกอักเสบให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

พบ 37 ภาพที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อ เหงือก อักเสบ กิน ยา อะไร ดี.