โทรศัพท์ติดไวรัสแก้ไขอย่างไร: วิธีแก้ปัญหาเบื้องต้น

การเป็นโทรศัพท์ที่ติดไวรัสอาจเป็นปัญหาที่น่ากังวลอย่างยิ่งสำหรับผู้ใช้งาน โทรศัพท์มือถือเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญในชีวิตประจำวัน และการเสียหายจากไวรัสสามารถกระทบกระเทือนไปถึงด้านต่างๆ ของชีวิตการใช้งานทั้งในเรื่องของความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของข้อมูล ดังนั้น หากเกิดเหตุให้โทรศัพท์ของคุณติดไวรัส คุณจะต้องรู้วิธีแก้ไขเพื่อเอาไวรัสออกจากโทรศัพท์อย่างถูกวิธีและปลอดภัย ในบทความนี้ เราจะพาคุณรู้จักกับบทความที่เกี่ยวข้องกับโทรศัพท์ที่ติดไวรัส วิธีแก้ไข วิธีป้องกัน ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น และแอปพลิเคชันที่ช่วยแก้ไขโทรศัพท์ที่ติดไวรัสได้อย่างมีประสิทธิภาพ

โทรศัพท์ที่ติดไวรัส: การตรวจหาและสแกนไวรัสในโทรศัพท์

การตรวจหาและสแกนไวรัสในโทรศัพท์เป็นขั้นตอนสำคัญในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น เนื่องจากคุณต้องรู้ว่าโทรศัพท์ของคุณได้รับความเสียหายจากไวรัสหรือไม่ โดยสิ่งที่ต้องทำคือการใช้แอปพลิเคชันหรือโปรแกรมสแกนไวรัสต่างๆ ที่สามารถตรวจหาไวรัสในโทรศัพท์ของคุณได้ ในการเลือกใช้แอปพลิเคชันสแกนไวรัสควรเลือกใช้โปรแกรมจากแหล่งที่มีความน่าเชื่อถือและได้รับการรับรอง บางแอปต่างจะมีการตรวจสอบแยกเฉพาะเซ็คเตอร์เท่านั้น ในขณะที่อีกแอปอาจมีการตรวจสอบทั้งแยกเฉพาะเซ็คเตอร์และไวรัสทั้งหมด

วิธีเอาไวรัสออกจากโทรศัพท์

หลังจากที่คุณตรวจหาและพบไวรัสในโทรศัพท์ของคุณแล้ว คุณจะต้องดำเนินการเอาไวรัสออกจากโทรศัพท์ วิธีการที่ได้รับการยอมรับและเป็นที่นิยมคือการรีเซ็ตโทรศัพท์เครื่องนั้นๆ กระบวนการรีเซ็ตช่วยให้โทรศัพท์กลับคืนสู่สภาพเดิม โดยล้างข้อมูลและแอปพลิเคชันทั้งหมดที่อาจมีไวรัส การรีเซ็ตอาจถือเป็นตัวเลือกที่ปลอดภัยและง่ายที่สุดในการกำจัดไวรัส แต่จำไว้ว่าการรีเซ็ตอาจทำให้คุณสูญเสียข้อมูลที่ไม่ได้ถูกบันทึกไว้ ดังนั้นคุณควรสำรองข้อมูลสำคัญก่อนทำการรีเซ็ต

การป้องกันไม่ให้โทรศัพท์ติดไวรัส

การป้องกันก่อนที่โทรศัพท์ของคุณจะติดไวรัสเป็นเรื่องสำคัญ เนื่องจากความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลและมูลค่าอื่นๆ ที่เก็บในโทรศัพท์ของคุณอยู่ในข่าวลำบาก นี่คือวิธีการป้องกันไม่ให้โทรศัพท์ติดไวรัส:

1. อัปเดตระบบปฏิบัติการ: การอัปเดตระบบปฏิบัติการให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดช่วยป้องกันไม่ให้โทรศัพท์ของคุณติดเชื้อไวรัสใหม่

2. ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันจากที่น่าเชื่อถือ: เลือกดาวน์โหลดแอปพลิเคชันจากที่มีความน่าเชื่อถือและได้รับความคาดหวัง

3. เปิดใช้งานตั้งค่าความปลอดภัย: โทรศัพท์มือถือจะมีตั้งค่าความปลอดภัยที่สามารถใช้งานได้ ตรวจสอบและเปิดใช้งานตั้งค่าเหล่านี้เพื่อป้องกันไม่ให้โทรศัพท์หลุดระบบหรือเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัส

4. ไม่คลิกลิงก์ที่ไม่น่าเชื่อถือ: อย่าคลิกลิงก์ที่ไม่น่าเชื่อถือจากข้อความหรืออีเมลที่ท่านไม่รู้จัก ที่ส่งถึงโทรศัพท์ของคุณ

5. ศึกษาแอปพลิเคชันก่อนติดตั้ง: อ่านความคิดเห็นของผู้ใช้งานและความคิดเห็นเกี่ยวกับแอปพลิเคชันที่ต้องการติดตั้ง เพื่อความปลอดภัยสูงที่สุด

ผลกระทบของไวรัสต่อโทรศัพท์

ไวรัสที่รุนแรงอาจมีผลกระทบให้โทรศัพท์ของคุณทำงานผิดปกติ หรือใช้งานไม่ได้เลย รวมถึงข้อมูลที่เก็บอยู่ในโทรศัพท์อาจชำรุดหรือสูญหายไป ผลกระทบเหล่านี้อาจทำให้คุณไม่สามารถใช้โทรศัพท์ได้อย่างปกติ การสูญเสียข้อมูลสำคัญเช่นรูปภาพ วีดีโอ และข้อมูลส่วนตัวอาจสร้างความเสียหายอย่างรุนแรงที่มากขึ้น

วิธีการกู้ข้อมูลในโทรศัพท์ที่ติดไวรัส

หากโทรศัพท์ของคุณติดไวรัสและพบว่าข้อมูลบางส่วนสูญหายไป หรือไม่สามารถเข้าถึงได้ นี่คือขั้นตอนที่คุณสามารถทำเพื่อกู้ข้อมูล:

1. สำรองข้อมูลอย่างเสมอ: สิ่งที่สำคัญคือการสำรองข้อมูลอย่างเสมอ เพื่อให้สามารถกู้คืนข้อมูลได้ง่ายๆ ในกรณีที่โทรศัพท์ของคุณติดไวรัส

2. ใช้บริการเก็บข้อมูลเมืองหมี: บริการเก็บข้อมูลออนไลน์เช่น Google Drive และ Dropbox เป็นต้น สามารถช่วยคุณเก็บข้อมูลที่สำคัญไว้ในระบบคลาวด์และสามารถกู้ข้อมูลได้ง่าย โดยเข้าสู่ระบบจากอุปกรณ์อื่น

3. ใช้แอปพลิเคชันกู้คืนข้อมูล: มีแอปพลิเคชันต่างๆ ที่สามารถใช้ในการกู้คืนข้อมูลจากโทรศัพท์ติดไวรัส คุณสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันเหล่านี้และทดลองใช้ดูว่าสามารถกู้คืนข้อมูลของคุณได้หรือไม่

แนะนำแอปพลิเคชันที่ช่วยแก้ไขโทรศัพท์ที่ติดไวรัส

มีแอปพลิเคชันหลายๆ แอปที่ออกแบบมาเพื่อช่วยแก้ไขโทรศัพท์ที่ติดไวรัส ดังนี้:

1. Avast Mobile Security: แอปพลิเค

ในปัจจุบันโทรศัพท์มือถือเป็นสิ่งจำเป็นที่คนส่วนใหญ่มีอยู่เสมอ โดยเฉพาะกับโทรศัพท์ Samsung ที่เป็นแบรนด์ยอดนิยมและได้รับความนิยมทั่วโลก แต่ในระหว่างการใช้งานจริงอาจมีความเป็นไปได้ที่โทรศัพท์ Samsung ของคุณอาจติดเชื้อไวรัส ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อข้อมูลส่วนตัวของคุณ ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องทำความสะอาดและล้างไวรัสในโทรศัพท์ Samsung ของเราอย่างเป็นระบบ

วิธีล้างไวรัสในโทรศัพท์ Samsung

วิธีที่หนึ่ง: ตรวจสอบแอปพลิเคชัน

การตรวจสอบแอปพลิเคชันที่ติดตั้งอยู่ในโทรศัพท์ของคุณเป็นขั้นตอนแรกที่ควรทำโดยเฉพาะหากคุณได้ทำการดาวน์โหลดและติดตั้งแอปพลิเคชันจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือหรือไม่รู้จัก คุณควรเลือกลบแอปพลิเคชันที่ไม่คุ้นเคยหรือถือว่าเป็นไปได้ที่อาจมีไวรัสส่งเสริมดังกล่าว เพื่อลดโอกาสให้เกิดการรักษาข้อมูลส่วนตัวของคุณ

วิธีที่สอง: อัปเดตซอฟต์แวร์

การอัปเดตซอฟต์แวร์เป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนควรทำในอย่างแรกเมื่อคุณรับมือกับไวรัสในโทรศัพท์ Samsung ของคุณ โดยซอฟต์แวร์ใหม่ที่อัปเดตแก้ไขบั๊กและช่องโหว่ต่างๆ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของโทรศัพท์ของคุณ อีกทั้งการอัปเดตซอฟต์แวร์ยังช่วยให้โทรศัพท์ของคุณทำงานได้ดีและประหยัดพลังงานมากขึ้น

วิธีที่สาม: สแกนการ์ด SD

หากคุณใช้การ์ด SD ในโทรศัพท์ Samsung ของคุณ คุณควรทำการสแกนการ์ด SD เนื่องจากไวรัสอาจซ่อนอยู่ในไฟล์หรือโปรแกรมที่เก็บในนั้น คุณสามารถใช้แอปพลิเคชันสแกนไวรัสที่ถูกต้องและน่าเชื่อถือจากแหล่งที่มีความนิยมเพื่อเพิ่มโอกาสที่จะพบและล้างไวรัส

วิธีที่สี่: รีเซ็ตโรงงาน

หากวิธีทั้งสามอย่างที่กล่าวมาข้างต้นไม่สามารถกำจัดไวรัสได้หรือหากคุณต้องการให้โทรศัพท์กลับมาในสภาพเดิมเหมือนใหม่คุณสามารถล้างไวรัสออกไปโดยการรีเซ็ตโรงงาน แต่ก่อนจะดำเนินการรีเซ็ตโรงงานคุณควรสำรองข้อมูลส่วนตัวที่คุณต้องการเก็บไว้ก่อนหน้านี้ เพราะการรีเซ็ตโรงงานจะล้างข้อมูลทั้งหมดในโทรศัพท์

ทบทวน: เชื่อถือและการรักษาอย่างไร้เสียงโทรศัพท์และข้อมูลส่วนตัวของคุณ

เพื่อป้องกันไม่ให้โทรศัพท์ของคุณติดเชื้อไวรัสซ้ำอีกครั้ง การเชื่อถือและการรักษาอย่างไร้เสียงเป็นสิ่งสำคัญในกระบวนการใช้งานโทรศัพท์อย่างถูกต้อง ตลอดเวลาอัปเดตและตรวจสอบทุกแอปพลิเคชันที่คุณอัปเดตอยู่ให้แน่ใจว่ามันเป็นแอปพลิเคชันที่น่าเชื่อถือจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ เพื่อลดโอกาสให้เกิดการติดเชื้อไวรัสอีกครั้ง

คำถามที่พบบ่อย

1. วิธีล้างไวรัสในโทรศัพท์ Samsung เมื่อไม่ต้องการรีเซ็ตโรงงาน?
– หากคุณไม่ต้องการรีเซ็ตโรงงาน คุณควรตรวจสอบและลบแอปพลิเคชันที่ไม่คุ้นเคยหรือไม่เป็นไปได้ว่ามันเป็นต้นเหตุของไวรัส คุณยังสามารถอัปเดตซอฟต์แวร์และสแกนการ์ด SD เพื่อตรวจหาและล้างไวรัสได้อีกด้วย

2. การซื้อแอปพลิเคชันสแกนไวรัสควรคำแนะนำหรือไม่?
– ควรให้ความสำคัญกับแอปพลิเคชันสแกนไวรัสจากแหล่งที่น่าเชื่อถือเท่านั้น เช่นแอปพลิเคชันจากผู้ผลิตและแหล่งดาวน์โหลดที่มีความนิยม เพื่อให้คุณได้รับประโยชน์จริงจากการสแกนและล้างไวรัส

3. การล้างไวรัสจากโทรศัพท์ Samsung จำเป็นต้องทำบ่อยแค่ไหน?
– การล้างไวรัสจากโทรศัพท์ Samsung ควรทำอย่างน้อยหนึ่งเดือนหรือตามความจำเป็น การดำเนินการนี้จะช่วยให้คุณรักษาโทรศัพท์ของคุณให้ปลอดภัยและทำงานได้อย่างเสถียรในระยะยาว

4. การรักษาโทรศัพท์ซัมซุงจะมีประโยชน์อย่างไร?
– การรักษาโทรศัพท์ซัมซุงจะช่วยป้องกันไม่ให้โทรศัพท์ของคุณติดเชื้อไวรัสซ้ำอีกครั้ง ซึ่งจะช่วยสงวนข้อมูลส่วนตัวและปกป้องความปลอดภัยของคุณ

อย่างไรก็ตาม การล้างไวรัสในโทรศัพท์ Samsung เป็นเพียงเครื่องมือหนึ่งในการรักษาความปลอดภัยของคุณ การใช้งานโทรศัพท์อย่างระมัดระวังและปฏิบัติตามคำแนะนำจากผู้ผลิตเป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับความปลอดภัยของข้อมูลส่วนตัวของคุณ

ในยุคที่เทคโนโลยีเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากในชีวิตประจำวันของเรา การใช้โทรศัพท์มือถือเพื่อการสื่อสารไม่เคยตกหลุมลงไป การมีสถานการณ์ที่โทรศัพท์โดนเชื้อไวรัสแอบแทรกจับครองก็ไม่น่าแปลกใจอีกต่อไป ปัญหานี้ส่งผลกระทบอย่างมากต่อสิ่งที่เราทำในชีวิตประจำวัน เช่น เกี่ยวกับความเสียหายที่ได้รับจากข้อมูลส่วนตัว เช่น บัญชีที่ถูกแอบขโมยสิ่งของสำคัญ และสิ่งนี้ส่งผลกระทบอย่างล้นหลามต่อความเชื่อถือและความปลอดภัยของเรา ในบทความนี้ เราจะพูดถึง โทรศัพท์โดนไวรัส อาการและวิธีการป้องกัน

โทรศัพท์โดนไวรัส อาการ
เชื้อไวรัสที่เข้าไปในโทรศัพท์อาจกระทบถึงประสิทธิภาพการทำงานของโทรศัพท์ของคุณ สิ่งหนึ่งที่เราอาจมองไม่เห็นได้ง่ายคือ ข้อมูลส่วนตัวของคุณอาจถูกเข้าถึงและถูกนำไปใช้ในทางที่ไม่เหมาะสม อาการที่แสดงให้เห็นว่าโทรศัพท์ของคุณโดนไวรัสได้แก่

1. ประสิทธิภาพการทำงานลดลง: หากโทรศัพท์ของคุณเริ่มที่จะทำงานช้าลงและตอบสนองช้ากว่าเดิม อาจสังเกตเห็นได้ชัดว่าโทรศัพท์ของคุณอาจได้รับอาการโดนไวรัสแล้ว

2. การรับข้อความหรือการโทรที่ไม่ต้องการ: อาการต่อไปนี้เป็นที่พบมากขึ้นในโทรศัพท์ที่โดนไวรัส คุณอาจได้รับข้อความหรือโทรจากหมายเลขที่ไม่รู้จัก โทรศัพท์ของคุณยังอาจเปิดโปรแกรมแชทโดยอัตโนมัติหรือคัดลอกข้อความที่ไม่มีความเกี่ยวข้อง

3. เปลี่ยนแปลงข้อมูล: อีเมลย่อยน่าจะต้องการในการเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของคุณเพื่อพยายามใช้ข้อมูลเหล่านั้นในทางที่ไม่เหมาะสม คุณอาจสังเกตเห็นได้ว่ามีข้อมูลหรือแอพพลิเคชันที่มีอยู่ในโทรศัพท์ของคุณที่คุณไม่ได้ตั้งค่าหรือติดตั้ง

วิธีการป้องกัน
การรักษาความปลอดภัยของโทรศัพท์มือถือของคุณเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ดังนั้น เราจึงมีวิธีการป้องกันโทรศัพท์ไม่ให้โดนไวรัสได้แก่

1. อัปเดตซอฟต์แวร์เป็นประจำ: การอัปเดตซอฟต์แวร์โทรศัพท์และแอปพลิเคชันต่างๆ เป็นสิ่งสำคัญที่คุณควรทำ เนื่องจากผู้ผลิตซอฟต์แวร์และนักพัฒนานั้นมักจะเปลี่ยนแปลงและปรับปรุงระบบเพื่อให้แม่นยำและปลอดภัยขึ้น

2. ติดตั้งแอนตี้ไวรัส: ติดตั้งแอนตี้ไวรัสที่น่าเชื่อถือและอัปเดตสม่ำเสมอ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับโทรศัพท์ของคุณ สามารถตรวจสอบสถานะแอนตี้ไวรัสที่ได้รับการอัปเดตล่าสุดได้ในแต่ละครั้งที่เปิดโปรแกรม

3. หลีกเลี่ยงการใช้แหล่งไม่น่าเชื่อถือ: หลีกเลี่ยงการใช้แอพพลิเคชันหรือไม่รู้จัก และเว็บไซต์ที่ไม่น่าเชื่อถือ เพราะอาจมีไวรัสหรือแอพพลิเคชันที่ออกแบบมาเพื่อขโมยข้อมูลจากโทรศัพท์ของคุณ

4. ระวังเว็บไซต์แอพพลิเคชันที่สุ่มเข้ามา: เช่น เว็บไซต์ที่จำลองเว็บไซต์ของแอพพลิเคชันที่น่าเชื่อถือ เพื่อขโมยชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านของคุณ อย่างไรก็ตาม อย่าโอบเอาไว้ถ้าคุณไม่แน่ใจว่ามันเป็นสิ่งที่คาดไม่ถึง

คำถามที่พบบ่อย
1. สิ่งที่ควรทำหากโทรศัพท์ของฉันโดนไวรัส?
หากคุณเชื่อว่าโทรศัพท์ของคุณโดนไวรัส สิ่งแรกที่ควรทำคืออัปเดตซอฟต์แวร์ทั้งหมดให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด และติดตั้งแอนตี้ไวรัสที่น่าเชื่อถือและอัปเดตสม่ำเสมอ

2. วิธีการป้องกันไวรัสในอีเมลมีอย่างไรบ้าง?
หลีกเลี่ยงการเปิดอีเมลหรือแนบไฟล์จากผู้ส่งที่ไม่รู้จัก และให้ระมัดระวังกับลิงก์ที่ไม่น่าเชื่อถือภายในอีเมล

3. จะต้องทำอย่างไรหากโทรศัพท์ของฉันถูกแฮ็ก?
หากคุณพบว่าโทรศัพท์ของคุณถูกแฮ็ก สิ่งแรกที่ควรทำคือเปลี่ยนรหัสผ่านและล็อกออกจากระบบของแอปที่ไม่รู้จัก นอกจากนี้ คุณควรทำการสแกนและลบแอปพลิเคชันที่คุณไม่ได้ติดตั้งเอง

สำหรับสุดยอดและคุ้มค่าของโทรศัพท์มือถือในปัจจุบัน การรักษาความปลอดภัยสำคัญไม่แพ้การให้ความสำคัญกับความสะดวกในการใช้งาน รักษาความปลอดภัยของโทรศัพท์ของคุณตลอดเวลาเพื่อเป็นการปกป้องข้อมูลส่วนตัวของคุณและความเชื่อถือที่สูง ต่อไอดีนักโจมตีที่อาจพยายามเข้าถึงข้อมูลของคุณด้วยเทคนิคต่างๆ

ในยุคปัจจุบันที่เราใช้สมาร์ทโฟน Android ไปทุกที่ทุกเวลา เครื่องมือนี้เป็นสิ่งสำคัญที่เราพกพาตลอดเวลา เพราะฉะนั้นการรักษาความปลอดภัยและประสิทธิภาพของมือถือด้วยการล้างไวรัสสำคัญมาก โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่เราเก็บข้อมูลมากมาย แสดงถึงความสำคัญของการล้างไวรัสมือถือของเราอย่างน้อยเป็นประจำเพื่อความถูกต้องและปลอดภัยในการใช้งานของเครื่อง Android ของเราทุกวัน

ในบทความนี้ เราจะได้กล่าวถึงเรื่องราวที่เกี่ยวกับล้างไวรัสมือถือ Android อย่างละเอียด เราจะอธิบายกระบวนการล้างไวรัสที่ถูกต้อง รวมถึงเคล็ดลับและเทคนิคที่จะทำให้คุณสามารถทำความสะอาดไวรัสในมือถือของคุณได้อย่างมืออาชีพ

ขั้นตอนที่ 1: สแกนโดยใช้โปรแกรมยอดนิยม
เราควรเริ่มต้นการล้างไวรัสโดยการสแกนมือถือ Android ของเราด้วยโปรแกรมตรวจสอบไวรัสที่มีชื่อเสียง บางตัวอย่างที่คุณอาจพิจารณาได้เช่น Avast Mobile Security, Bitdefender Mobile Security หรือ McAfee Mobile Security โปรแกรมเหล่านี้จะช่วยให้คุณสแกนและตรวจสอบไฟล์ โฟลเดอร์ และแอพพลิเคชั่นของคุณเพื่อค้นหาไวรัสและมัลแวร์ที่อาจรบกวนความปลอดภัยของคุณ รวมทั้งจะแจ้งเตือนคุณเมื่อมีความเป็นไปได้ว่ามีไวรัสหรือภัยคุกคามอื่นๆ แอบเข้ามารบกวนในอุปกรณ์ของคุณ

ขั้นตอนที่ 2: อัปเดตและอัพเกรดระบบปฏิบัติการ
การอัปเดตและอัพเกรดระบบปฏิบัติการ Android เป็นสิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่คุณต้องทำให้มั่นใจในความปลอดภัย เนื่องจากมีการปรับปรุงและแก้ไขช่องโหว่ที่เจาะจงในรุ่นก่อนหน้า อีกทั้งระบบปฏิบัติการที่อัพเกรดสามารถส่งคำแนะนำให้เราเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยได้อีกด้วย ดังนั้นหากมีการแจ้งเตือนหรือข้อมูลเพิ่มเติมในเรื่องนี้คุณควรทำการอัพเดตเพื่อความปลอดภัยของระบบอยู่เสมอ

ขั้นตอนที่ 3: ลบแอพพลิเคชั่นที่ไม่จำเป็น
การลดจำนวนแอพพลิเคชั่นที่ไม่จำเป็นในโทรศัพท์ของคุณจะช่วยล้างไวรัสและป้องกันเข้าใช้สิ่งที่ไม่พึงประสงค์ ไม่ว่าคุณจะเข้าไปที่ Google Play Store หรือตรวจสอบในโฟลเดอร์ “แอพพลิเคชั่น” ของคุณ คุณต้องสามารถระบุและลบแอพพลิเคชั่นที่คุณไม่ได้ใช้อีกต่อไป เพราะอาจจะเป็นแหล่งที่ซ่อนโค้ดที่เป็นภัยคุกคามหรือมีเซ็กส์ที่ไม่เหมาะสมเชื่อง รวมทั้งปรับใช้มาตราการการเข้าสู่ระบบจากระบบปฏิบัติการ Android ว่าโดยผู้พัฒนาแอพพลิเคชั่นด้วยจะเรียกร้องเข้ามาในระบบเพื่อขอสิทธิ์ต่างๆ ทั้งนี้คุณจะต้องอนุญาตหรือปฏิเสธเพื่อความปลอดภัยของระบบ

ขั้นตอนที่ 4: อัปเดตแอพพลิเคชั่น
การอัปเดตคือกระบวนการที่ช่วยปรับปรุงแอพพลิเคชั่นในมือถือ Android เพื่อสร้างการรองรับและป้องกันของทั่วไป กระบวนการพิสูจน์ความปลอดภัยของแอพสำหรับการล้างไวรัสมือถืออย่างแท้จริงก็คือการติดตามการแจ้งเตือนการอัปเดตที่ระบบปฏิบัติการส่งไป โดยอัตโนมัติหรือพิจารณาที่จะดำเนินการอัปเดตและลบโปรแกรมที่ไม่ได้ใช้แล้วออกเพื่อป้องกันปัญหาด้านรัปและความปลอดภัย

ขั้นตอนที่ 5: การสำรองข้อมูล
ในกรณีที่คุณต้องประสบภัยคุกคามจากไวรัสหรือการล้างไวรัสที่พบในขั้นตอนก่อนหน้าคุณควรมีการสำรองข้อมูลหรือทำการเข้าระบบใหม่เพื่อความปลอดภัยและสิ่งที่เรียกว่า “ทุกอย่างจะแจ้งออกไปยังสิ่งที่เกี่ยวข้องกับคุณ” ตั้งแต่การติดตั้งแอพ การใช้งาน และการเคลื่อนย้ายข้อมูลเพื่อป้องกันความสูญเสียข้อมูลและการเข้าถึงสูงสุดถึงสิ่งที่คุณคาดหวัง

FAQs (คำถามที่พบบ่อย):

คำถาม 1: มีโปรแกรมล้างไวรัสที่แนะนำให้ใช้มั้ย?
คำตอบ: ใช่, มีโปรแกรมหลายตัวที่แนะนำให้ใช้เพื่อล้างไวรัสมือถือ Android เช่น Avast Mobile Security, Bitdefender Mobile Security, และ McAfee Mobile Security เป็นต้น ดังนั้นคุณสามารถเลือกใช้โปรแกรมได้ตามความเหมาะสมของคุณ

คำถาม 2: อัปเดตระบบปฏิบัติการสำคัญไหม?
คำตอบ: ใช่, อัปเดตและอัพเกรดระบบปฏิบัติการ Android เป็นสิ่งสำคัญเพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพ ดังนั้นคุณอาจต้องอัปเดตสมาชิกใหม่เพื่อให้ได้รับประโยชน์จากเพื่อการป้องกันในสิ่งที่ถูกระบบอัปเดตและการแก้ไขข้อขัดข้อง

คำถาม 3: คำแนะนำกับแอพพลิเคชั่นซ่อนโค้ดและมัลแวร์คืออะไร?
คำตอบ: แอพพลิเคชั่นซ่อนโค้ดและมัลแวร์คือโปรแกรมที่จัดรูปให้ออกเป็นสิ่งที่ไม่ทำกำไร โดยก่อกวนความปลอดภัยของมือถือของคุณโดยผู้ไม่ได้รับอนุญาต และประกอบไปด้วยฟังก์ชั่นที่ผิดปกติ เช่นการปิดระบบป้องกันเพื่อให้มัลแวร์ทำงาน การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลหรือการเข้าถึงข้อมูลที่สำคัญในอุปกรณ์ของคุณ

พบ 27 ภาพที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อ โทรศัพท์ ติด ไวรัส แก้ไข อย่างไร.