ตัวอย่าง ส่ง อีเมล์ สมัคร งาน
การสมัครงานส่วนใหญ่แล้วแต่ขั้นต้นจะเริ่มต้นด้วยการส่งอีเมล์สมัครงานเพื่อเป็นการสื่อสารระหว่างผู้สมัครและบริษัทหรือองค์กรที่เปิดรับสมัครงาน การเขียนอีเมล์สมัครงานที่เป็นกลางและมีคุณภาพสามารถช่วยให้คุณได้รับการสังเกตและสร้างความประทับใจการเป็นงาน ดังนั้นในบทความนี้เราจะแนะนำแนวทางการเขียนอีเมล์สมัครงานที่ทันสมัยและถูกต้อง เพื่อสร้างโอกาสในการได้งานเพียงเล็กน้อย
แนวทางการเขียนเรซูเม่ที่ทันสมัยและถูกต้อง
การเขียนเรซูเม่ในปัจจุบันเริ่มมีเทรนด์ใหม่ๆพร้อมทั้งพลาดประโยชน์จากการใช้คำใหม่ในระหว่างนั้นด้วย เพื่อให้ตัวเรซูเม่ของคุณแตกต่างและน่าสนใจ
– แนะนำตัวเองโดยใช้คำที่มีน้ำหนัก
– ระบุความสามารถและประสบการณ์ที่เป็นประโยชน์สำหรับตำแหน่งงานที่สมัคร
– ใส่ลิงค์โปรไฟล์ออนไลน์หรือผลงานเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้อง
การรวบรวมข้อมูลสำคัญในอีเมล์สมัครงาน
เป็นสิ่งสำคัญที่คุณต้องรู้ว่าควรจะใส่ข้อมูลอะไรลงไปในอีเมล์สมัครงาน โดยทั่วไปแล้วจะมี
– ชื่อเต็ม และข้อมูลส่วนตัว เช่น เพศ อายุ วันเดือนปีเกิด ที่อยู่ และข้อมูลติดต่อต่างๆ (เบอร์โทรศัพท์ อีเมล์)
– ประวัติการศึกษาและการทำงานที่เกี่ยวข้อง
– การเรียงลำดับที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งงานที่สมัคร
– ตำแหน่งงานที่คุณสมัครและสรุปความสามารถที่ตรงกับตำแหน่งงาน
วิธีออกแบบหัวข้อในอีเมล์สมัครงานที่ดึงดูดอ่าน
หัวข้อในอีเมล์สมัครงานเปรียบเสมือนหน้าปกของหนังสือ หากหน้าปกน่าสนใจ ผู้อ่านจะมีความสนใจในการอ่านเนื้อหาต่อไป ดังนั้น อีเมล์สมัครงานควรจะมีหัวข้อที่น่าสนใจและนำเสนอข้อมูลหลักให้ได้รับการสังเกต
– ระบุตำแหน่งงานที่คุณสมัครกำลังอยู่ในหัวข้อ
– อธิบายคุณสมบัติหรือความสามารถที่เป็นสิ่งสำคัญในการรับในหัวข้อ
– เปลี่ยนหัวข้อให้น่าสนใจและไม่ซ้ำซ้อนเมื่อส่งให้กับหลายบริษัท
การเลือกใช้ภาษาและคำที่เหมาะสมในอีเมล์สมัครงาน
ในการเลือกใช้ภาษาและคำในอีเมล์สมัครงานควรให้คำแนะนำดังนี้
– ใช้ภาษาไทยในการเขียนอีเมล์สมัครงานสำหรับบริษัทภาษาไทย และภาษาอังกฤษสำหรับบริษัทนักศึกษาระดับนานาชาติ
– ใช้ภาษาที่รู้สึกถนัดและเข้าใจในการสื่อสารกับผู้รับอีเมล์สมัครงาน
– อะไรคือบริษัทหรือองค์กรที่บริการสถานะแอพนี้คุณสมบัติ
– อะไรคือบริษัทหรือองค์กรที่คุณเป็นส่วนใหญ่ในคอมเมนต์ นั้นยระเวณหางานเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ?
วิธีเขียนข้อมูลติดต่อในอีเมล์สมัครงานที่ชัดเจนและเรียบร้อย
ข้อมูลติดต่อในอีเมล์สมัครงานคือสิ่งสำคัญที่ช่วยให้บุคคลที่รับอีเมล์สามารถติดต่อกลับหาคุณได้ง่ายขึ้น ดังนั้นคุณควรที่จะระบุข้อมูลติดต่อที่ชัดเจนและเรียบร้อย
– ใส่ชื่อและที่อยู่ที่ถูกต้องในส่วนที่ต้องการ
– อย่าลืมใส่หมายเลขโทรศัพท์โทรศัพท์มือถือและอีเมล์ให้เพียงพอที่จะติดต่อกลับ
– อย่าลืมตรวจสอบอีเมล์ก่อนส่งเมื่อผ่านช่วงเวลาที่สามารถติดต่อกลับไม่ได้
การเน้นความสำคัญของความสามารถและประสบการณ์ในอีเมล์สมัครงาน
ในอีเมล์สมัครงานควรเน้นความสำคัญและประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งงานที่คุณสมัคร
– ใส่ความสามารถของคุณที่เหมาะสมกับตำแหน่งงานที่กำลังสมัคร
– ระบุประสบการณ์ที่สอดคล้องกับตำแหน่งงานที่สมัคร
– อธิบายหรือระบุผลงานที่สำคัญที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งงาน
วิธีเล่าเรื่องราวส่วนตัวในอีเมล์สมัครงานอย่างเหมาะสม
การเล่าเรื่องราวส่วนตัวในอีเมล์สมัครงานสามารถช่วยให้หัวข้อและเนื้อหาของคุณน่าสนใจและถูกใจผู้อ่าน
– เล่าเรื่องราวส่วนตัวที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งงานที่คุณสมัคร
– แสดงถึงคุณลักษณะบุคลิกภาพที่สอดคล้องกับบริษัทหรือองค์กร
– เน้นเรื่องที่เป็นที่น่าสนใจและประโยชน์ต่อตำแหน่งงาน
การปรับแต่งอีเมล์สมัครงานให้สอดคล้องกับตำแหน่งงานที่สมัคร
อีเมล์สมัครงานควรจะถูกปรับแต่งให้สอดคล้องกับตำแหน่งงานที่คุณสมัคร
– อ่านรายละเอียดเกี่ยวกับตำแหน่งงานที่สมัครอย่างรอบคอบ
– ปรับแต่งเนื้อหาของเรซูเม่ให้สอดคล้องกับคุณสมบัติของตำแหน่งงาน
– เน้นความสำค
สอนส่งเรซูเม่สมัครงานผ่านอีเมล์ I พี่จ๊ะเอ๋ Career Coaching
คำสำคัญที่ผู้ใช้ค้นหา: ตัวอย่าง ส่ง อีเมล์ สมัคร งาน ตัวอย่าง email สมัครงาน ภาษาไทย, เขียน email สมัครงาน ภาษาอังกฤษ, ตัวอย่าง email สมัครงาน ภาษาอังกฤษ pantip, ส่งเมลสมัครงาน pantip, วิธีส่ง resume สมัครงาน, ส่ง เมล สมัครงาน ตอนกลางคืน, วิธีแนบไฟล์สมัครงาน, ส่งเมลสมัครงาน เวลาไหน
รูปภาพที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อ ตัวอย่าง ส่ง อีเมล์ สมัคร งาน
หมวดหมู่: Top 23 ตัวอย่าง ส่ง อีเมล์ สมัคร งาน
ส่งเอกสารสมัครงาน มีอะไรบ้าง
ส่งเอกสารสมัครงานเป็นขั้นตอนที่สำคัญสำหรับคนที่ต้องการหางานใหม่หรือเข้าสู่วงการงานครั้งแรก ความสำเร็จของการส่งเอกสารสมัครงานขึ้นอยู่กับการเตรียมความพร้อมและการเลือกใช้เอกสารที่เหมาะสมสำหรับตนเอง เพื่อเพิ่มโอกาสในการได้รับสิ่งที่ต้องการ หากคุณกำลังมองหาวิธีการส่งเอกสารสมัครงานที่เหมาะสม ในบทความนี้เราจะพาคุณไปทำความรู้จักกับสิ่งที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับการส่งเอกสารสมัครงาน และตอบคำถามที่สำคัญเกี่ยวกับขั้นตอนนี้
ก่อนที่จะเริ่มส่งเอกสารสมัครงาน ขั้นแรกคุณควรสร้างเอกสารสมัครงานที่เป็นมาตรฐานและน่าสนใจ โดยคำแนะนำที่แนะนำให้ประกอบด้วยข้อมูลต่อไปนี้:
1. ผู้ประสานงานและข้อมูลการติดต่อ: ระบุชื่อของคุณและชื่อสกุล ที่อยู่, เบอร์โทรศัพท์, และอีเมลของคุณให้ชัดเจน เพื่อให้ผู้จัดการหรือผู้ติดต่อสามารถติดต่อคุณได้อย่างง่ายดาย
2. วัตถุประสงค์: อธิบายเหตุผลที่คุณสนใจที่จะเข้าร่วมองค์กรและอาชีพที่คุณกำลังสมัครงาน บอกผู้สมัครงานว่าคุณเข้าใจและขีดความสามารถของคุณในทางอาชีพนั้นอย่างชัดเจน
3. ประวัติการศึกษาและการทำงาน: ระบุประวัติการศึกษาของคุณ รวมถึงระดับการศึกษา วุฒิการศึกษาที่คุณได้รับการศึกษา และตำแหน่งงานที่คุณได้ประสบความสำเร็จก่อนหน้านี้ อาจมีการเพิ่มผลงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับอาชีพของคุณ รวมถึงผลงาน กิจกรรมประจำวันยอดเยี่ยม หรือรางวัลที่เกี่ยวข้อง
4. ทักษะและความสามารถ: จัดเตรียมรายละเอียดเกี่ยวกับทักษะที่คุณมี รวมถึงทักษะทางภาษา ทักษะคอมพิวเตอร์ ทักษะนักแสดงละคร หรือทักษะธุรกิจอื่นๆ ที่สามารถช่วยให้คุณโดดเด่นเมื่อเปรียบเทียบกับผู้สมัครงานคนอื่นๆ
5. งานวิจัยและโครงการ: ระบุผลงานวิจัยที่คุณเคยทำหรือโครงการที่คุณเคยมีส่วนร่วม ซึ่งอาจเป็นโครงการศึกษาที่เกี่ยวข้องกับสาขาวิชาที่คุณทำงานหรือเรียนอยู่ การแสดงผลงานวิจัยจะช่วยให้คุณได้สานต่อกับองค์กรที่คุณสนใจและโดดเด่นในตลาดแรงงาน
หลังจากที่คุณได้เตรียมเอกสารสมัครงานที่เหมาะสมแล้ว ขั้นตอนถัดไปคือการส่งเอกสารสมัครงานไปยังองค์กรที่คุณสนใจ นี่คือเทคนิคต่างๆ ที่คุณควรรู้เพื่อส่งเอกสารสมัครงานที่ประสบความสำเร็จ:
1. สำรวจข้อมูลขององค์กร: ก่อนที่คุณจะส่งเอกสารสมัครงานไปยังองค์กรใดๆ คุณควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับองค์กรนั้นๆ อาทิ ประวัติของบริษัท บรรยากาศวิชาชีพ หรือความสำเร็จทางธุรกิจที่ผ่านมา เพื่อที่คุณจะสามารถปรับเปลี่ยนหรือปรับเปลี่ยนเอกสารสมัครงานของคุณให้ใช้กับองค์กรนั้นได้อย่างเหมาะสม
2. รับรู้ความต้องการขององค์กร: คุณควรอ่านและเข้าใจคำอธิบายงานที่องค์กรต้องการตำแหน่งงานนั้นๆ รวมถึงความสามารถ, ทักษะที่ต้องการ, และประสบการณ์ที่คุณควรมีเพื่อสนับสนุนการสมัครงานสำหรับตำแหน่งงานที่คุณสนใจ
3. เรียงลำดับเอกสารสมัครงานให้ถูกต้อง: การเรียงลำดับเอกสารสมัครงานเป็นสิ่งสำคัญที่สามารถทำได้โดยง่าย โดยเอกสารสมัครงานภาษาไทยมักจะคล้ายกับแบบปกติ ที่ประกอบไปด้วย จดหมายบัญชีสมัครงาน, เรซูเม่, หน้าปก และเอกสารเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้อง คุณควรแนบเอกสารต่างๆ ที่มีเกี่ยวข้อง เช่น ผลงานเพิ่มเติม, ตัวอย่างการแปลคำ, หรือแผนการทำงาน ในกรณีที่องค์กรร้องขอ
4. ตรวจสอบอักขระและคำผิดการใช้: การตรวจสอบทางไวยากรณ์และการใช้ภาษาให้ถูกต้องเป็นสิ่งที่สำคัญ คุณควรตรวจสอบคำผิดหลายครั้ง และให้ความสำคัญกับการใช้งานตัวพิมพ์ใหญ่และตัวพิมพ์เล็ก การเขียนที่ตรงไปตรงมาและละเอียดเป็นสิ่งสำคัญ
คำถามที่พบบ่อย:
1. ต้องเตรียมเอกสารสมัครงานอะไรบ้าง?
การส่งเอกสารสมัครงานควรประกอบด้วยจดหมายสมัครงาน, ใบสมัครงาน, รายละเอียดประวัติส่วนตัว (ชื่อ, ที่อยู่, เบอร์โทรศัพท์สำหรับติดต่อ, อีเมล ฯลฯ), ประวัติการศึกษา, ประวัติการทำงาน, รายละเอียดทักษะ, และการเตรียมตัวสำหรับสัมภาษณ์พิเศษ
2. เราควรจัดรูปแบบไฟล์เอกสารอย่างไรเมื่อส่งเข้าไปในอีเมล?
แนะนำให้ส่งเอกสารเป็นไฟล์ PDF เพื่อให้เอกสารสมัครงานคงความถูกต้องและเรียบร้อยทั้งรูปแบบและรายละเอียด
3. ต้องส่งเครื่องหมายลายเซ็นที่เอกสารสมัครงานหรือไม่?
สำหรับการส่งเอกสารสมัครงานทางออนไลน์ การส่งเครื่องหมายลายเซ็นไม่จำเป็น แต่สำหรับการส่งเข้าสัมภาษณ์ตัวย่อมช่วยเสริมความมั่นใจและสร้างพฤติกรรมอย่างเซ็นชื่อให้ผู้สมัครงานได้อีกด้วย
4. ใช้ภาษาอังกฤษหรือภาษาไทยเมื่อเตรียมเอกสารสมัครงาน?
การใช้ภาษาที่สามารถเรียงถ้อยคำและใช้ภาษาได้อย่างถูกต้องและเป็นระเบียบ เช่นคำสั่งการ, คำเชิญชวน และหน้าที่อื่นๆอย่างชัดเจนจะมีผลในการสร้างความประทับใจ
สุดท้าย, ในการส่งเอกสารสมัครงานแต่ละครั้ง ความพยายามในการจัดเตรียมและสร้างเอกสารสมัครงานให้สมบูรณ์และเป็นระเบียบจะช่วยให้คุณมีโอกาสรับสิ่งที่ต้องการ อย่าลืมทำการตรวจสอบที่องค์กรที่คุณสนใจและปรับเอกสารสมัครงานให้เหมาะสมกับตำแหน่งงานนั้น เคล็ดลับการส่งเอกสารสมัครงานคือขั้นตอนเริ่มต้นที่สำคัญที่สุดในการสร้างชีวิตอาชีพใหม่ Supaporn Pitipunya, Sales Manager ที่ NexJob Asia, ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการส่งเอกสารสมัครงานที่สามารถทำให้คุณประสบความสำเร็จได้ในอนาคต
ในวันนี้, NexJob Asia สัมภาษณ์ Supaporn Pitipunya เพื่อให้คำแนะนำเกี่ยวกับการทำเอกสารสมัครงาน ก่อนที่คุณจะส่งเอกสารสมัครงาน สิ่งที่คุณควรรู้คือถ้าคุณต้องการที่จะส่งงานสมัครงานที่ผ่านมายาวนาน เครื่องหมายลายเซ็นของคุณอาจจะเก่า และดูเรียบร้อยกับเกณฑ์ของหน่วย
ส่งประวัติสมัครงาน มีอะไรบ้าง
ในการค้นหางาน การส่งประวัติสมัครงานเป็นขั้นตอนสำคัญที่จะทำให้คุณได้โอกาสในการได้งานที่ต้องการ การส่งประวัติสมัครงานไม่ใช่เพียงแค่การส่งเอกสารหรือรายละเอียดประวัติส่วนตัว แต่เป็นการสาธิตถึงความคิดริเริ่มและการตัดสินใจของคุณว่าคุณเหมาะสมกับงานนั้นหรือไม่ ในบทความนี้เราจะพูดถึงการส่งประวัติสมัครงานและสิ่งที่คุณควรรู้ในกระบวนการนี้
1. บันทึกประวัติส่วนตัวของคุณ
ขั้นแรกในการส่งประวัติสมัครงานคือการเตรียมจัดทำหรือสร้างประวัติส่วนตัวของคุณให้เรียบร้อย ในส่วนนี้คุณควรระบุข้อมูลของตนเองเช่นชื่อเต็ม ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ และอีเมล์ นอกจากนี้คุณควรใส่รายละเอียดที่อ้างอิงถึงประสบการณ์การทำงาน การศึกษา ทักษะ และความสามารถที่เกี่ยวข้องกับงานที่คุณสมัคร ในกรณีที่คุณมีประสบการณ์หลายรายการคุณควรจัดเรียงลำดับโดยให้รายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับงานเป็นอันดับแรก
2. ข้อควรระวังในการส่งประวัติสมัครงาน
เมื่อคุณผ่านขั้นตอนการเตรียมประวัติส่วนตัวแล้ว ข้อสำคัญที่สุดคือตรวจสอบข้อมูลที่คุณใส่ การตรวจสอบความถูกต้องและความสมเหตุสมผลของข้อมูลในประวัติส่วนตัวนั้นมีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากหากโดนตรวจพบว่ามีข้อมูลที่ไม่ถูกต้องหรือข้อมูลประวัติส่วนตัวที่เป็นเท็จ อาจทำให้คุณสูญเสียโอกาสในการได้งานที่ต้องการ ดังนั้นควรใช้เวลาตรวจสอบอย่างละเอียดและรองรับข้อมูลที่คุณใส่ด้วยเอกสารหลักฐานเพื่อความถูกต้องและน่าเชื่อถือ
3. การเขียนจดหมายสมัครงาน
การส่งประวัติสมัครงานไม่จำเป็นต้องเป็นการส่งเอกสารเท่านั้น บางครั้งคุณอาจต้องเขียนจดหมายหรืออีเมล์สมัครงานเพื่อเพิ่มโอกาสในการได้งานที่คุณต้องการ การเขียนจดหมายสมัครงานจะช่วยเพิ่มความเกี่ยวข้องของคุณกับงานที่คุณสมัคร ทำให้นายจ้างเห็นความกระตือรือร้นและความจริงใจของคุณในการศึกษางานนั้นๆ จดหมายสมัครงานควรมีโครงสร้างที่เข้าใจง่าย และชื่อเรื่องที่สะอาด อีกทั้งควรใส่ข้อมูลเพียงพอและสร้างความน่าสนใจด้วยข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับประสบการณ์ เช่น ผลงานที่เคยทำ หรือคอร์สที่เคยเรียน รวมถึงความสามารถที่เชี่ยวชาญเพิ่มเข้ามาอีกด้วย
4. การจัดวางบทความเกี่ยวกับประวัติสมัครงาน
วิธีการจัดการสิ่งที่คุณใส่ในประวัติสมัครงานมีความสำคัญมาก คุณควรจัดลำดับเนื้อหาของประวัติส่วนตัวตามความสำคัญ อย่างแรกควรสร้างส่วนข้อมูลส่วนตัว ได้แก่ ชื่อ เพศ วันเดือนปีเกิด ที่อยู่ และข้อมูลการติดต่อ ทั้งนี้เพื่อให้ง่ายต่อการติดตามและติดต่อกับคุณ ส่วนถัดไปเป็นส่วนประวัติการศึกษา ควรแสดงระดับการศึกษาของคุณ โรงเรียนที่เคยศึกษา รวมถึงปีที่สำเร็จการศึกษานั้นๆ นอกจากนี้คุณควรเพิ่มการศึกษาหรืออบรมที่มีความเกี่ยวข้องกับงานที่คุณสมัครเพิ่มเข้ามาด้วย
5. การเตรียมเอกสารสมัครงานเพิ่มเติม
นอกจากประวัติสมัครงานแล้ว คุณควรเตรียมเอกสารสมัครงานเพิ่มเติมที่สำคัญ อย่างเช่น ใบสมัครงาน เอกสารรับรองการศึกษา หลักฐานประสบการณ์ทำงาน ใบอนุญาตและใบสมัครรับจ้าง เป็นต้น การเตรียมเอกสารเพิ่มเติมที่สำคัญนี้ ช่วยเสริมความก้าวหน้าของคุณและทำให้นายจ้างเห็นถึงคุณค่าและคุณสมบัติของคุณในการพิจารณาให้งาน
FAQs
1. มีอะไรบ้างที่ควรเตรียมก่อนส่งประวัติสมัครงาน?
ก่อนส่งประวัติสมัครงานคุณควรเตรียมโครงร่างประวัติส่วนตัวและเงื่อนไขการสมัครงานในบริษัทนั้น ๆ รวมถึงเอกสารสมัครงานที่เกี่ยวข้องที่สำคัญ เช่น ใบสมัครงาน ใบอนุญาต เอกสารรับรองการศึกษา และหลักฐานประสบการณ์ทำงาน
2. การส่งประวัติสมัครงานผ่านช่องทางใดดีที่สุด?
ขึ้นอยู่กับแต่ละบริษัทว่ามีช่องทางการส่งประวัติสมัครงานใดให้บริการ ซึ่งมีหลายทางเลือกให้เลือก เช่น ส่งทางไปรษณีย์ ส่งอีเมล หรือส่งผ่านแพลตฟอร์มการสมัครงานออนไลน์ เพื่อสะดวกและรวดเร็วขอแนะนำให้คุณติดต่อสอบถามกับบริษัทหรือผู้จัดการงานเพื่อทราบข้อมูลและช่องทางการส่งที่ถูกต้อง
3. เอกสารสมัครงานที่สำคัญคืออะไรบ้าง?
เอกสารสมัครงานที่สำคัญประกอบด้วย ใบสมัครงาน สำหรับบันทึกข้อมูลส่วนที่ต้องการ เอกสารการศึกษาที่ระบุถึงระดับการศึกษา หลักฐานประสบการณ์ทำงาน เอกสารรับรองการศึกษา และใบอนุญาต โดยเอกสารเหล่านี้ช่วยเสริมความสามารถของคุณและเป็นการยืนยันความเชื่อถือของข้อมูลที่คุณใส่
4. การตรวจสอบประวัติสมัครงานของคนอื่นมีความสำคัญหรือไม่?
การตรวจสอบประวัติสมัครงานของคนอื่นมีความสำคัญอย่างยิ่งเนื่องจากอาจช่วยให้คุณทราบถึงความสามารถและประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องของบุคคลนั้น นอกจากนี้ยังช่วยกำหนดความเหมาะสมของบุคคลนั้นกับงานที่คุณกำลังสนใจ
ดูเพิ่มเติมที่นี่: shoptrethovn.net
ตัวอย่าง Email สมัครงาน ภาษาไทย
การสมัครงานในปัจจุบันต้องใช้การสื่อสารผ่านทางอินเทอร์เน็ตเป็นอันมาก โดยหลายคนส่งเรซูเม่หรือผลงานต่างๆ ผ่านทางอีเมลให้กับบริษัทและองค์กรต่างๆ เพื่อของตำแหน่งงานที่ต้องการ และสิ่งสำคัญที่สุดคือความหลากหลายของไฟล์แนบที่ส่งรวมถึงอีเมลข้อความหรือส่วนที่แน..
ตัวอย่าง email สมัครงานภาษาไทยที่ดีสามารถช่วยเพิ่มโอกาสให้คุณได้งานเป็นอย่างมาก ควรเข้าใจวิธีเขียน email ที่มีคุณภาพและทำให้ตัวเองโดดเด่นจากผู้สมัครงานคนอื่นๆ ดังนี้คือเทคนิคที่คุณสามารถใช้ได้:
หัวข้ออีเมล (Email Subject):
เริ่มต้นด้วยการตั้งชื่อหัวข้ออีเมล (Email Subject) ที่น่าสนใจและเกี่ยวข้องกับตำแหน่งงานที่คุณสนใจ ยกตัวอย่างเช่น “สมัครงานตำแหน่ง Designer ด้วยความสามารถในงาน UX/UI” เป็นต้น หัวข้อที่น่าสนใจจะช่วยให้ผู้รับเมลิเห็นความตั้งใจและเรื่องราวของเราอยู่ในจุดสำคัญ
ที่อยู่อีเมล (Email Address):
การใช้ที่อยู่อีเมลที่เกี่ยวข้องเมื่อส่งอีเมลสมัครงานเป็นสิ่งสำคัญ เมื่อคุณใช้ที่อยู่อีเมลที่บุคคลอื่นสามารถรู้จัก คุณควรรักษาความระมัดระวัง ในทางกลับกัน หากต้องใช้อีเมลผู้อื่นเช่น [email protected] จะดูมีนามสกุลความคิดเห็นหรือพวกมันที่ไม่เหมาะสมและอาจทำให้บริษัทของคุณมองข้ามเรซูเม่ของคุณได้
คำทักทาย (Email Greeting):
เริ่มต้นอีเมลของคุณด้วยคำทักทายที่เหมาะสมและสุภาพ เช่น “เรียนคุณ <ชื่อผู้รับ>,” หากคุณไม่รู้จักชื่อผู้รับ สามารถใช้คำทักทายทั่วไปอย่าง “เรียนทีมทรัพยากรบุคคล,” หากคุณต้องการความปลอดภัยให้ใช้ “เรียนทีมทรัพยากรบุคคลชื่อองค์กร”
บทนำ (Introduction):
แนะนำตัวและวัตถุประสงค์ที่อยากจะสมัครงานมาที่บริษัทและทำไมคุณจึงสนใจกับตำแหน่งงานนี้ ในการแนะนำตัวเองคุณควรเน้นพูดถึงความสนใจถึงบริษัทที่คุณสมัคร และอธิบายที่มาและที่สนใจในตำแหน่งงานที่นี้
ความสามารถและประสบการณ์ที่เกี่ยวข้อง (Relevant Skills and Experience):
สำรวจหาความสัมพันธ์ระหว่างประสบการณ์และทักษะของคุณกับตำแหน่งงานที่คุณสมัคร เน้นการอธิบายความสามารถและประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องและจำเป็นตามที่บริษัทต้องการ อ่านประกาศงานอีกครั้งและเลือกดูทักษะหรือคุณสมบัติที่เกี่ยวข้องที่สุด ควรอธิบายเป็นแบบชัดเจนว่าทำไมคุณเชื่อว่าคุณสามารถสร้างความแตกต่างและมีความสำคัญในบริษัทนี้ได้
คำสรุป (Conclusion):
ในส่วนสุดท้ายของอีเมลสมัครงานภาษาไทย คุณควรทำคำสรุปซึ่งจะได้เสนอตัวเราอีกครั้ง ดังนั้นคุณควรเน้นย้ำถึงความกระตือรือร้นในการทำงาน และรูปแบบความงามของบริษัท ในส่วนสุดท้ายของทางผู้สมัครงานควรทำลายเบื้องต้นและวันที่สามารถนัดหมายเพื่อการสัมภาษณ์หรือการติดต่อกลับ
แนบไฟล์ (Attach Documents):
จะเป็นประโยชน์ที่จะแนบรายชื่อเรซูเม่และเอกสารสำเร็จรูปที่เกี่ยวข้อง เช่น จดหมายแนะนำตัวเองในที่ทำงานก่อนหน้า การตั้งใจที่จะแนบเข้าไปด้วยอาจมีประโยชน์มากถ้าคุณหวังว่าผู้สมัครจะเหมาะสมกับตำแหน่งงานนี้โดยเฉพาะ
ตัวอย่างไฟล์แนบ (Sample Attachments):
ถ้าคุณไม่สามารถรวบรวมสิ่งที่ใช้จากงานที่ผ่านมาได้หรือไม่มีเอกสารเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้อง คุณสามารถนำเสนอตัวอย่างงานหรือผลงานในรูปแบบ URL หรือลิ้งค์รับรองงานที่ผ่านมา
กลับสู่คำสั่ง (Final Remarks):
สิ้นสุดด้วยคำอวยพรขอบคุณสำหรับโอกาสที่ท่านให้ได้สมัครงานและขอแสดงความนับถือ ตรงกันข้ามขอคำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อมูลที่สามารถปรับปรุงได้
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
1. หลักการเขียนอีเมลสมัครงานเป็นอย่างไร?
การเขียนอีเมลสมัครงานควรมีหัวข้อที่น่าสนใจและเกี่ยวข้องกับตำแหน่งงานที่สนใจ ใช้ที่อยู่อีเมลที่ถูกต้องเป็นของตนเองและชื่อที่น่าเชื่อถือ ในย่อหน้าแรกพูดถึงข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ, ที่อยู่, และเบอร์โทรศัพท์ จากนั้นต่อด้วยหนังสือเล่มสำหรับตำแหน่งงานที่คุณสนใจได้อย่างชัดเจน อีเมลสมัครงานควรจัดหัวข้อให้สร้างความเข้าใจและอคติในตัวผู้สมัคร จบอีเมลด้วยคำสรุปและวิธีการติดต่อกลับ
2. ควรระบุความสามารถและประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องอย่างไร?
ควรระบุความสามารถและประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องในเรื่องที่คุณชอบและตั้งใจ คุณสามารถเน้นการอธิบายความสามารถและประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องตามที่บริษัทต้องการได้อย่างชัดเจน เช่น การใช้ภาษาต่างประเทศ, ทักษะทางด้านคอมพิวเตอร์, หรือความสำเร็จในการทำโครงการที่แตกต่าง
3. ที่อยู่อีเมลที่ถูกต้องคืออะไร?
การใช้ที่อยู่อีเมลที่ถูกต้องโดยมิใช่ที่อยู่อีเมลที่บุคคลอื่นสามารถรู้จัก เช่น [email protected] จะทำให้หลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่คุณอาจเจอ
4. แนบไฟล์ที่อยู่ในรูปแบบใดเพื่อสมัครงาน?
คุณสามารถแนบไฟล์ในรูปแบบ PDF (.pdf) หรือ Word (.doc / .docx) ที่ไม่มีรหัสผ่าน รูปแบบที่ดีที่สุดคือ PDF ซึ่งสามารถแสดงเนื้อหาได้อย่างสมบูรณ์และถูกต้องเหมือนกับต้นฉบับ
5. ควรใช้คำสุภาพอย่างไรเมื่อเขียนอีเมลสมัครงาน?
ควรใช้คำทักทายและคำบรรยายที่สุภาพ เช่น “เรียนคุณ <ชื่อผู้รับ>,” “ขอแสดงความนับถือ,” “ขอบคุณล่วงหน้า” เป็นต้น ควรใส่คำกระตุ้นทางเอเมดทางภาษาด้วย เพื่อเล้าสนใจผู้รับอีเมลของคุณ
อีเมลสมัครงานที่เขียนอย่างถูกต้องและมีคุณภาพนั้นเป็นสิ่งสำคัญมากเพื่อที่จะเพิ่มโอกาสในการได้งานที่คุณต้องการ เก่งภาษาไทยและใช้เทคนิคต่างๆ ในการสร้างคำสรุปที่น่าสนใจและออกเสียงดีในสมัครงานของคุณ คุณก็จะเป็นผู้สมัครที่น่าจับตามองและเตะประตูได้ในโอกาสต่อไป
Sources:
https://www.kaidee.com/
https://jobb.thaijob.com/th/career-guide/434-%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%9E%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%9C%E0%B8%A5%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%97%E0%B8%99%E0%B8%B8%E0%B8%A1%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8
เขียน Email สมัครงาน ภาษาอังกฤษ
การสมัครงานในปัจจุบันนั้นมีหลายช่องทาง เราสามารถสมัครงานผ่านแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ต่างๆ ได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตามส่งอีเมล์ของคุณไปยังบริษัทที่คุณต้องการทำงาน มีความสำคัญอย่างมาก ณ จุดนี้ความรู้เกี่ยวกับการเขียนอีเมล์สมัครงาน ภาษาอังกฤษจึงกลับมามีความสำคัญต่อคุณ
ในบทความนี้ เราจะมาแนะนำเกี่ยวกับวิธีการเขียนอีเมล์สมัครงาน ภาษาอังกฤษ เพื่อช่วยให้คุณมีโอกาสในการได้งานที่คุณต้องการมากขึ้น โดยเน้นไปที่ข้อดี คำแนะนำ และคำถามที่พบบ่อยในการสมัครงานผ่านอีเมล์
วิธีการเขียนอีเมล์สมัครงาน ภาษาอังกฤษ
1. เริ่มต้นด้วยการใส่ข้อมูลผู้รับอีเมล์
เมื่อคุณเริ่มเขียนอีเมล์สมัครงาน ต้องเริ่มด้วยการใส่ข้อมูลผู้รับอีเมล์ ซึ่งอาจจะเป็นชื่อเรียกหรือคำนำหน้าให้กับผู้รับ เช่น Dear Mr. Smith หรือ Dear HR Manager เป็นต้น ในกรณีที่คุณไม่ทราบชื่อผู้รับ คุณสามารถใช้คำที่เหมาะสมเช่น To whom it may concern หรือ Dear Hiring Manager
2. เขียนเรื่อง (Subject) ที่น่าสนใจ
เมื่อเริ่มเขียนอีเมล์สมัครงาน ต้องให้ความสำคัญกับเรื่อง (Subject) ของอีเมล์ ควรเขียนเรื่องให้อ่านแล้วน่าสนใจและสะดุดตา เช่น “Application for Graphic Designer Position – John Doe” หรือ “Marketing Professional Seeking New Opportunities”
3. ช่วยให้ตัวเองดูน่าสนใจในข้อแนะนำตัวเอง (Introduction)
ช่วงนี้เป็นช่วงที่คุณควรบอกถึงตัวเองอย่างละเอียด เพื่อให้ผู้รับอีเมล์ได้รู้จักและสนใจในคุณมากขึ้น คุณสามารถอธิบายความสนใจ ความผูกพัน และความสามารถที่มีคุณเองได้ อีเมล์นี้ควรมีความยาวประมาณ 2-3 ย่อหน้า เพื่อไม่ให้อีเมล์ดูยาวเกินไป
4. ยืนยันความสนใจและคุณสมบัติ (Interest and Qualifications)
ในส่วนนี้คุณควรอธิบายถึงความสนใจและคุณสมบัติที่เกี่ยวข้องกับงานที่คุณสมัคร อธิบายให้ละเอียดมากขึ้นเกี่ยวกับความสามารถ ประสบการณ์ที่เกี่ยวข้อง และคุณสมบัติอื่นๆ ที่อาจจะช่วยให้คุณเป็นผู้สมัครที่น่าสนใจกับบริษัท
5. แนะนำตัว (Refer to Resume)
ในส่วนสุดท้ายของอีเมล์ คุณสามารถแนะนำให้ผู้รับอีเมล์ดูเอกสารประกอบการสมัครงานอื่นๆ ที่คุณส่งมารวมทั้งเรซูเม่ โดยอย่าลืมมอบข้อมูลติดต่อที่ครบถ้วน เช่น หมายเลขโทรศัพท์ ที่อยู่อีเมล์ หรือหมายเลขโทรศัพท์สะดวกในการติดต่อกลับ
ต่อไปเราจะมาพูดถึงคำถามที่พบบ่อยตอนสมัครงานผ่านอีเมล์
คำถามที่พบบ่อยเมื่อสมัครงานผ่านอีเมล์
Q: ควรเริ่มต้นอีเมล์สมัครงานด้วยคำทักทายอะไร?
A: คุณสามารถเริ่มอีเมล์ด้วยคำทักทายเช่น “Dear Mr. Smith” หรือ “Dear HR Manager” ซึ่งคำทักทายขึ้นอยู่กับระดับผู้รับอีเมล์ หากไม่ทราบชื่อผู้รับ ให้ใช้คำทักทายเช่น “To whom it may concern” หรือ “Dear Hiring Manager”
Q: ควรเขียนเรื่อง (Subject) ลงในอีเมล์สมัครงานให้ดูน่าสนใจอย่างไร?
A: เรื่อง (Subject) ของอีเมล์ควรสื่อถึงประเด็นหลักของการสมัครงาน เช่น “Application for Graphic Designer Position – John Doe” หรือ “Marketing Professional Seeking New Opportunities” เนื้อหาของเรื่อง (Subject) ควรเป็นสิ่งที่น่าสนใจและสะดุดตา เพื่อให้ผู้รับอีเมล์ของคุณสนใจที่จะอ่านต่อ
Q: อีเมล์สมัครงานควรมีความยาวเท่าใด?
A: ขึ้นอยู่กับเนื้อหาของอีเมล์ ภายในอีเมล์ควรไม่ยาวเกินไป เนื้อหาควรสรุปสั้นๆ แต่โดยรวมแล้วอีเมล์สมัครงานจะมีความยาวประมาณ 2-3 ย่อหน้า
Q: ควรให้เนื้อหาเกี่ยวกับความสามารถหรือประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับงานไหม?
A: ใช่ ควรอธิบายถึงความสามารถและประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับงานที่คุณสมัคร อย่างไรก็ตามคุณควรตัดสินใจเลือกเนื้อหาที่สอดคล้องกับตำแหน่งงานในที่ทำงานนั้น
Q: ควรมีการแนะนำตัวหรือติดต่อเพิ่มเติมในอีเมล์สมัครงานหรือไม่?
A: ใช่ ควรแนะนำให้ผู้รับอีเมล์ได้รู้จักเรื่องคุณมากขึ้น โดยสามารถแนบเรซูเม่หรือเอกสารประกอบการสมัครงานอื่นๆ ที่คุณส่งมารวมทั้งข้อมูลติดต่ออื่นๆ ที่สามารถให้ผู้รับอีเมล์ติดต่อกลับได้อย่างสะดวก
เมื่อคุณได้รับข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการเขียนอีเมล์สมัครงาน ภาษาอังกฤษและคำถามที่พบบ่อย คุณอาจจะพร้อมสำหรับการสมัครงานผ่านอีเมล์แล้ว อย่าลืมตรวจสอบอีเมล์ของคุณอีกครั้งก่อนส่ง เพื่อให้คุณมั่นใจว่าอีเมล์ของคุณเป็นไปตามต้องการ และหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์และสามารถช่วยให้คุณสำเร็จในการสมัครงานของคุณได้
มี 36 ภาพที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อ ตัวอย่าง ส่ง อีเมล์ สมัคร งาน.
ลิงค์บทความ: ตัวอย่าง ส่ง อีเมล์ สมัคร งาน.
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโพสต์หัวข้อนี้ ตัวอย่าง ส่ง อีเมล์ สมัคร งาน.
- How To สมัครงานผ่านอีเมลง่าย ๆ แต่ได้ใจ HR – JobThai
- วิธีเขียนอีเมลสมัครงาน พร้อมตัวอย่างเอาไปใช้ ได้งานชัวร์
- เทคนิคส่ง E-Mail สมัครงาน ให้ดูเป็นมืออาชีพ !! by เด็กฝึกงาน.com
- How To เขียนอีเมลสมัครงานภาษาอังกฤษ แบบที่ไม่โดน HR ปัดตก
- How to เขียนอีเมลสมัครงานภาษาอังกฤษให้ได้งาน!
- How to เขียนอีเมลสมัครงานฉบับมืออาชีพ HR อยากเปิดอ่านทันที
- ส่งอีเมลแบบไหน? เขียนเรซูเม่ยังไง? ที่จะไม่โดนบริษัทปัดตกทันที่เห็น …
- เช็กลิสต์เอกสารที่ต้องพร้อม เมื่อเตรียมตัวไปสมัครงาน – Sanook.com
- วิธีเขียนเรซูเม่สมัครงานให้น่าสนใจพร้อมตัวอย่าง
- 5 วิธีสมัครงานอย่างไรให้มีโอกาสได้งานมากที่สุด – Mango Zero
- เทคนิคส่ง E-Mail สมัครงาน ให้ดูเป็นมืออาชีพ !! by เด็กฝึกงาน.com
- อีเมลสมัครงานภาษาอังกฤษ เขียนยังไงให้ถูกใจ HR ฉบับ 2023
- เขียนอีเมลสมัครงานยังไงให้ปัง
ดูเพิ่มเติม: https://shoptrethovn.net/category/mindfulness blog