ตัวเลขภาษาจีน 1-100: ขั้นตอนเพื่อเรียนรู้และทำความเข้าใจ
ตัวเลขภาษาจีน 1-100
Keywords searched by users: ตัวเลข ภาษา จีน 1 100 เลขภาษาจีน1-1000, ตัวเลขภาษาจีน1-200, เลขภาษาจีน1-50, ตัวเลขภาษาจีน 1-10000, อ่านตัวเลขภาษาจีน, 100 ภาษาจีน อ่าน ว่า, 200ภาษาจีน, 150ภาษาจีน
ตัวเลข ภาษา จีน 1 100 – คู่มืออบอุ่น
ตัวเลขในภาษาจีนมีความสำคัญที่สูงมาก ไม่ว่าจะเป็นในเชิงกายภาพและวัฒนธรรมของชาวจีน ตัวเลขนับแต่ 1 ถึง 100 เป็นข้อมูลที่สำคัญที่ชาวจีนจะใช้ในชีวิตประจำวัน สำหรับคนที่สนใจศึกษาภาษาจีน การรู้เรื่องเกี่ยวกับตัวเลขจีนนี้เป็นสิ่งที่ไม่ควรพลาด
1. ความสำคัญของตัวเลขในภาษาจีน
ในภาษาจีนตัวเลขมีความสำคัญที่สูง มีความแตกต่างที่เห็นได้ชัดเจนระหว่างภาษาอื่นๆ นับแต่ที่เริ่มต้นที่ 1 และเลข 4 และ 7 มีย่อยมากของคำในภาษาจีน ซึ่งมักจะมีความหมายที่ไม่ดี การใช้เลข 8 ในชีวิตประจำวันมีความหมายที่ดีและเป็นกันเอง โดยคำว่า 8 เสียงเหมือนกับคำว่า โชว์ในภาษาจีน จึงนิยมใช้เลข 8 เช่น ราคาสินค้า 888 หรือ เบอร์โทรศัพท์ที่มีเลข 8 เป็นต้น
2. วิธีอ่านและเขียนตัวเลขจีน 1-10
ในภาษาจีนตัวเลขจะถูกอ่านและเขียนในลักษณะที่แตกต่างจากภาษาไทย ดังนี้:
– 1: หนึ่ง (Yī)
– 2: สอง (Èr)
– 3: สาม (Sān)
– 4: สี่ (Sì)
– 5: ห้า (Wǔ)
– 6: หก (Liù)
– 7: เจ็ด (Qī)
– 8: แปด (Bā)
– 9: เก้า (Jiǔ)
– 10: สิบ (Shí)
การเขียนตัวเลขจีนก็จะไม่ซับซ้อน แต่จะได้ดูเป็นรูปของการเขียนบางส่วนของช่องว่าง เพื่อแสดงถึงจำนวนครั้งของการเขียนตัวเลข ซึ่งจำเป็นต้องรู้จักเพื่อให้สามารถอ่านและเขียนตัวเลขจีนได้อย่างถูกต้อง
3. วิธีอ่านและเขียนตัวเลขจีน 1-100
จากตัวอย่างข้างต้น การอ่านและเขียนตัวเลขจีนตั้งแต่ 1-10 จะใช้วิธีเดียวกันที่พูดถึงในข้อที่ 2 สำหรับตัวเลข 11-20 เราจะใช้รูปแบบต่อไปนี้:
– 11: เลขหนึ่งสิบเอ็ด (Yī shíyī)
– 12: เลขหนึ่งสิบสอง (Yī shísì)
– 13: เลขหนึ่งสิบสาม (Yī shísān)
– 14: เลขหนึ่งสิบสี่ (Yī shísì)
– 15: เลขหนึ่งสิบห้า (Yī shíwǔ)
– 16: เลขหนึ่งสิบหก (Yī shíliù)
– 17: เลขหนึ่งสิบเจ็ด (Yī shíqī)
– 18: เลขหนึ่งสิบแปด (Yī shíbā)
– 19: เลขหนึ่งสิบเก้า (Yī shíjiǔ)
– 20: ยี่สิบ (Èrshí)
สำหรับตัวเลข 20-100 จะใช้แบบเดียวกับตัวเลข 1-10 เมื่อมาเรียงจะอยู่ในรูปของผลรวมระหว่างเลขกิริยากับเลข 10 ซึ่งจะสร้างเป็นตัวเลขที่เป็นครึ่งเป็นพิเศษ
4. กรณีศึกษา: การใช้ตัวเลขจีนในสถานการณ์ประจำวัน
ตัวเลขจีนนับ 1-100 มีการประยุกต์ใช้ในสถานการณ์ที่หลากหลาย ตัวอย่างเช่น:
– เวลา: เวลาในภาษาจีนจะใช้ตัวเลขจีน 1-12 เพื่อแสดงช่วงเวลาท้องถิ่น เช่น เดือนมกราคมจะใช้ตัวเลขจีนคือ 一月 (yī yuè)
– อายุ: เมื่อถามเกี่ยวกับอายุคนในภาษาจีน คนจีนจะตอบโดยใช้ตัวเลขจีน 1-100 เพื่อแสดงอายุของตัวเอง
– เบอร์โทรศัพท์: ลำดับหมายเลขโทรศัพท์ในภาษาจีนจะใช้ตัวเลขจีนในลำดับที่มากกว่า 1 ตัวเพื่อเรียกเจ้าของหมายเลขโทรศัพท์
5. การนับตัวเลขจีน 1-10, 1-100, 1-1000, 1-1000000
นับตัวเลขในภาษาจีนแบบร้อยละต้น (INSERT KEYWORD “เลขภาษาจีน1-1000”) จะใช้กฎหลักในการรวมจำนวนเพื่อสร้างตัวเลข
การนับตัวเลขจีน 1-10 จะเป็นดังนี้:
– 1: 一 (Yī)
– 2: 二 (Èr)
– 3: 三 (Sān)
– 4: 四 (Sì)
– 5: 五 (Wǔ)
– 6: 六 (Liù)
– 7: 七 (Qī)
– 8: 八 (Bā)
– 9: 九 (Jiǔ)
– 10: 十 (Shí)
การนับตัวเลขจีน 1-100 จะรวมเลขคู่กับเลขคี่ที่เป็นตัวหลัก ในการกระจายตัวของเลขให้เหมือนที่กล่าวไปแล้ว
การนับตัวเลขจีน 1-1000 จะใช้หลักพัน (INSERT KEYWORD “เลขภาษาจีน1-1000”) ในวิธีการเดียวกันเช่นกัน
Categories: สำรวจ 16 ตัวเลข ภาษา จีน 1 100
- ตัวจีน 一 พินอิน Yī
- ตัวจีน 二 พินอิน Èr.
- ตัวจีน 三 พินอิน Sān.
- ตัวจีน 四 พินอิน Sì
- ตัวจีน 五 พินอิน Wǔ
- ตัวจีน 六 พินอิน Liù
- ตัวจีน 七 พินอิน Qī
- ตัวจีน 八 พินอิน Bā
เลขภาษาจีน1-1000
เลขภาษาจีนเป็นสิ่งที่น่าทึ่งและน่าเข้าใจในทางซึ่งเลขภาษาจีนทั้งหมดเกี่ยวข้องกับตัวเลขพื้นฐาน 1-10 และจากนั้นเลขภาษาจีนมีรูปแบบรายการบวกที่น่าทึ่งโดยผู้เรียนอาจจะพบเลขจีนที่ใช้กันอยู่ในชีวิตประจำวันไม่ว่าจะเป็นในการอธิบายเวลา วันที่ เพื่อเป็นต้น ดังนั้นในบทความนี้เราจะสอนคุณรายละเอียดเกี่ยวกับเลขภาษาจีนตั้งแต่ 1 ถึง 1000 ซึ่งจะช่วยให้คุณเข้าใจและเรียนรู้การอ่านและการเขียนของเลขภาษาจีนอย่างถูกต้อง
บทความนี้จะให้ข้อมูลอธิบายในรูปแบบของตารางเพื่อให้คุณสามารถอ่านและเขียนเลขภาษาจีนได้อย่างถูกต้อง นอกจากนี้ยังมีส่วนถามตอบคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับเลขภาษาจีนอีกด้วย
โดยไม่ต้องพูดเยอะอีกลงโดยตรง ขอเริ่มต้นแล้ว!
เลขภาษาจีน 1-10:
เรื่องเลขภาษาจีนเริ่มต้นด้วยเลขพื้นฐาน 1-10 ที่เป็นพื้นฐานสำคัญในการพัฒนาและเรียนรู้เลขภาษาจีน ดังนั้นลองมาดูรายละเอียดเลขจีนพื้นฐานที่ใช้รวมกันในรูปแบบตารางด้านล่าง:
| เลขภาษาจีน | คำอ่าน | ตัวอย่าง |
|————-|———|———|
| 1 | 一 | 一 (yī) |
| 2 | 二 | 二 (èr) |
| 3 | 三 | 三 (sān) |
| 4 | 四 | 四 (sì) |
| 5 | 五 | 五 (wǔ) |
| 6 | 六 | 六 (liù) |
| 7 | 七 | 七 (qī) |
| 8 | 八 | 八 (bā) |
| 9 | 九 | 九 (jiǔ) |
| 10 | 十 | 十 (shí) |
เมื่อคุณเรียนรู้เลขจีนพื้นฐานเหล่านี้ได้ถูกต้องแล้ว จะสามารถเรียนรู้และใช้เลขจีนในรูปแบบอื่นๆ ต่อไปได้อย่างง่ายดายและมั่นใจ
เลขภาษาจีน 11-99:
เมื่อคุณเรียนรู้เลขจีนพื้นฐาน 1-10 แล้ว ต่อไปคุณสามารถระบุเลขจีนแบบทศนิยมได้ โดยใช้เลขฐานที่ 10 ในรูปแบบขอสิบ ต่อไปเรามาดูตารางเลขจีนตั้งแต่ 11 ถึง 99 ในตารางด้านล่าง:
| เลขภาษาจีน | คำอ่าน | ตัวอย่าง |
|—————-|————-|—————|
| 11 | 十一 | 十一 (shí yī) |
| 12 | 十二 | 十二 (shí èr) |
| 13 | 十三 | 十三 (shí sān) |
| 14 | 十四 | 十四 (shí sì) |
| 15 | 十五 | 十五 (shí wǔ) |
| 16 | 十六 | 十六 (shí liù) |
| 17 | 十七 | 十七 (shí qī) |
| 18 | 十八 | 十八 (shí bā) |
| 19 | 十九 | 十九 (shí jiǔ) |
| 20 | 二十 | 二十 (èr shí) |
| 21 | 二十一 | 二十一 (èr shí yī) |
| 22 | 二十二 | 二十二 (èr shí èr) |
| 23 | 二十三 | 二十三 (èr shí sān) |
| 24 | 二十四 | 二十四 (èr shí sì) |
| 25 | 二十五 | 二十五 (èr shí wǔ) |
| 26 | 二十六 | 二十六 (èr shí liù) |
| 27 | 二十七 | 二十七 (èr shí qī) |
| 28 | 二十八 | 二十八 (èr shí bā) |
| 29 | 二十九 | 二十九 (èr shí jiǔ) |
| 30 | 三十 | 三十 (sān shí) |
| 40 | 四十 | 四十 (sì shí) |
| 50 | 五十 | 五十 (wǔ shí) |
| 60 | 六十 | 六十 (liù shí) |
| 70 | 七十 | 七十 (qī shí) |
| 80 | 八十 | 八十 (bā shí) |
| 90 | 九十 | 九十 (jiǔ shí) |
| 99 | 九十九 | 九十九 (jiǔ shí jiǔ) |
หลังจากแสดงตัวอย่างข้างต้นแล้ว คุณจะเห็นว่าการพูดเลขจีนเป็นไปอย่างเป็นระบบและสามารถแบ่งเลขเป็นกลุ่ม 10-อย่างเข้าหากัน
เลขภาษาจีน 100:
เมื่อเรารับรู้และเข้าใจเลขภาษาจีน 1-99 แล้ว มารู้จักกับ 100 (พระราชบัลลังก์) ซึ่งเป็นมหาสำนักในเลขภาษาจีน ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างของเลขจีน 100 ในตารางด้านล่าง:
| เลขภาษาจีน | คำอ่าน | ตัวอย่าง |
|—————-|————-|—————|
| 100 | 一百 | 一百 (yī bǎi) |
เมื่อคุณเข้าใจเลขจีนพื้นฐานและ 100 แล้ว เราสามารถขยายตัวเลขเล็ก ๆ เหล่านี้เพื่อสร้างเลขจีนในรูปแบบอื่น ๆ ได้
เลขภาษาจีน 101-999:
ต่อจากนั้น เรามาดูการเขียนเลขจีนในช่วง 101 ถึง 999 ในตารางด้านล่าง:
| เลขภาษาจีน | คำอ่าน | ตัวอย่าง |
|—————-|————-|—————|
| 101 | 一百零一 | 一百零一 (yī bǎi líng yī) |
| 123 | 一百二十三 | 一百二十三 (yī bǎi èr shí sān) |
| 200 | 二百 | 二百 (èr bǎi) |
| 250 | 二百五十 | 二百五十 (èr bǎi wǔ shí) |
| 333 | 三百三十三 | 三百三十三 (sān bǎi sān shí sān) |
| 400 | 四百 | 四百 (sì bǎi) |
| 500 | 五百 | 五百 (wǔ bǎi) |
| 600 | 六百 | 六百 (liù bǎi) |
| 700 | 七百 | 七百 (qī bǎi) |
| 800 | 八百 | 八百 (bā bǎi) |
| 900 | 九百 | 九百 (jiǔ bǎi) |
| 999 | 九百九十九 | 九百九十九 (jiǔ bǎi jiǔ shí jiǔ) |
การเขียนเลขจีนในช่วง 101 ถึง 999 เน้นความสำคัญของตัวเลขแต่ละตัว โดยใช้คำว่า “ว่า” เพื่อแบ่งช่วง 10 ออกเป็นกลุ่ม
เลขภาษาจีน 1000:
สุดท้าย เรามาดูโจทย์สำคัญสุดท้ายในการเร
ตัวเลขภาษาจีน1-200
ในภาษาจีน, เราสามารถใช้ตัวเลขในการแสดงความหมายต่าง ๆ ได้อย่างหลากหลาย ตั้งแต่การนับจำนวน การบอกอายุ หรือแม้กระทั่งการให้เบอร์โทรศัพท์ นับเป็นภาษาที่น่าสนใจและน่าตื่นเต้น ซึ่งทุกคนที่สนใจเรียนรู้ภาษาจีนควรรู้จักตัวเลขเหล่านี้ด้วย
ในบทความนี้เราจะศึกษาเกี่ยวกับตัวเลขภาษาจีนตั้งแต่ 1 ถึง 200 โดยใช้ตัวอิริยาบถในการแสดงค่าจำนวน นอกจากนี้ยังจะมีส่วนของคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับตัวเลขภาษาจีนเพื่อให้คุณเข้าใจและนำไปใช้ได้อย่างถูกต้อง
(หมายเหตุ: บทความนี้จะไม่ได้ใช้ h1 tag ตามที่คุณต้องการ)
ตัวเลข 1-10 ในภาษาจีน
ก่อนอื่นเราจะมาเรียนรู้การออกเสียงและจัดเรียงตัวเลขตั้งแต่ 1 ถึง 10 ในภาษาจีนกันก่อน
1 – 一 (yī)
2 – 二 (èr)
3 – 三 (sān)
4 – 四 (sì)
5 – 五 (wǔ)
6 – 六 (liù)
7 – 七 (qī)
8 – 八 (bā)
9 – 九 (jiǔ)
10 – 十 (shí)
การนับตัวเลข 11-19 ในภาษาจีนจะนำตัวเลข 1 มารวมกับ 10 และในกรณีที่มีเลขศูนย์ในตัวเลขก็จะใช้เลข ศูนย์ ที่อยู่ในตัวเลขที่ต้องการบวกเพิ่มเป็นตัวชี้วัด
11 – 十一 (shí yī)
12 – 十二 (shí èr)
13 – 十三 (shí sān)
14 – 十四 (shí sì)
15 – 十五 (shí wǔ)
16 – 十六 (shí liù)
17 – 十七 (shí qī)
18 – 十八 (shí bā)
19 – 十九 (shí jiǔ)
ตัวเลข 20-200 ในภาษาจีน
เมื่อเราเคยเรียนรู้ตัวเลข 1-10 แล้ว เราจะสามารถสร้างตัวเลขต่อไปได้โดยการนำตัวเลข 10 มารวมกับตัวเลข 1-9
20 – 二十 (èr shí)
30 – 三十 (sān shí)
40 – 四十 (sì shí)
50 – 五十 (wǔ shí)
60 – 六十 (liù shí)
70 – 七十 (qī shí)
80 – 八十 (bā shí)
90 – 九十 (jiǔ shí)
100 – 一百 (yī bǎi)
200 – 二百 (èr bǎi)
การนับตัวเลขที่มากกว่า 100 จะใช้ลักษณะเดียวกันกับของตัวเลข 20-90 โดยใช้ตัวเลขของหลักพัน หรือล้าน มารวมกับตัวเลขอื่น ๆ ตามลำดับ โดยใช้คำว่า “百 (bǎi)” หมายถึงหนึ่งร้อย
101 – 一百零一 (yī bǎi líng yī)
110 – 一百一十 (yī bǎi yī shí)
120 – 一百二十 (yī bǎi èr shí)
200 – 二百 (èr bǎi)
999 – 九百九十九 (jiǔ bǎi jiǔ shí jiǔ)
1000 – 一千 (yī qiān)
เมื่อใช้จำนวนที่มากกว่า 1000 เราจะใช้หลักหน่วยพันและหลักร้อย เช่น
2000 – 二千 (èr qiān)
9999 – 九千九百九十九 (jiǔ qiān jiǔ bǎi jiǔ shí jiǔ)
10000 – 一万 (yī wàn)
20000 – 二万 (èr wàn)
100000 – 十万 (shí wàn)
1000000 – 一百万 (yī bǎi wàn)
ภาษาจีนเป็นภาษาที่ท้าทายและน่าสนุกที่จะศึกษา การรู้จักและเข้าใจตัวเลขภาษาจีนจะเป็นประโยชน์อย่างมากในการเรียนรู้ภาษาและทำความเข้าใจกับวัฒนธรรมจีน
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับตัวเลขภาษาจีน
1. ตัวเลขที่เป็นเลขหลักเดียวในภาษาจีนคืออะไร?
ตัวเลขที่เป็นเลขหลักเดียวในภาษาจีนคือ 一 (yī) ถือเป็นตัวเลขแรกของภาษาจีนและบ่งบอกถึงจำนวนหนึ่ง
2. การนับตัวเลขในภาษาจีนเหมือนกับภาษาอื่น ๆ หรือไม่?
ในภาษาจีนมีลักษณะในการนับที่ไม่เหมือนกับภาษาอื่น ๆ ตัวเลขจะมีการรวมกันเมื่อมีการบวกเพิ่ม เช่น 11 ในภาษาจีนจะเป็น “十一” (shí yī) ซึ่งหมายถึง “สิบเอ็ด” และ 20 จะเป็น “二十” (èr shí) หมายถึง “ยี่สิบ”
3. ตัวเลข 0 ในภาษาจีนเป็นอย่างไร?
ตัวเลข 0 ในภาษาจีนคือ 零 (líng) แม้ว่าจะไม่ค่อยถูกใช้บ่อย แต่มีความสำคัญในการแสดงค่าตัวเลขที่ต้องการหยุดในการนับ
4. วิธีการอ่านตัวเลขในภาษาจีนเป็นอย่างไร?
การอ่านตัวเลขในภาษาจีนสามารถอ่านได้โดยตรงตามรูปแบบของตัวเลข เช่น 11 อ่านว่า “เอ็ดสิบเอ็ด” และ 25 อ่านว่า “ยี่สิบห้า” เป็นต้น
5. การเรียงลำดับตัวเลขในภาษาจีนเป็นอย่างไร?
ตัวเลขในภาษาจีนจะถูกเรียงลำดับตามลำดับของตัวเลขเช่นเดียวกับภาษาอื่น ๆ ตัวเลขที่มีค่าน้อยกว่าจะถูกเรียงก่อน และตัวเลขที่มีค่ามากกว่าจะถูกเรียงทีหลัง
นี่เป็นข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับตัวเลขภาษาจีน 1-200 ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการศึกษาภาษาจีน หากคุณต้องการเรียนรู้เพิ่มเติม ควรศึกษาต่อไปในแหล่งอ้างอิงที่ระบุไว้ในบทความนี้
เลขภาษาจีน1-50
นับเลขภาษาจีนเป็นสิ่งที่สำคัญในการเรียนรู้ภาษาจีนอย่างแน่นอน การทราบเลขภาษาจีนจะช่วยให้เราสื่อสารและเข้าใจภาษาจีนได้ดีกว่ามาก ภาษาจีนมีระบบการตั้งชื่อเลขแบบต่างๆ ที่คัดออกมาเป็นสองรูปแบบ คือ เลขภาษาจีนแบบจีนดั้งเดิม และเลขภาษาจีนแบบตัวเลขอารบิก
ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปรู้จักกับเลขภาษาจีนตั้งแต่ 1-50 โดยมีการอธิบายและแนะนำเลขแต่ละตัวอย่างละเอียด เพื่อให้คุณเรียนรู้และเข้าใจเลขภาษาจีนได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
หากคุณพร้อมแล้ว มาเริ่มเรียนรู้เลขภาษาจีน 1-50 กันเลย!
เลขภาษาจีนแบบจีนดั้งเดิม
เลขภาษาจีนแบบจีนดั้งเดิมเป็นรูปแบบการเขียนเลขโดยใช้ตัวอักษรจีนเป็นตัวแทนแต่ละตัวเลข ซึ่งจะมีการอ่านและอธิบายตัวเลขเป็นคำอย่างละเอียด ดังนี้
เลข 1 – 一 (yī)
ตัวเลข 1 เขียนเป็น 一 ซึ่งมีอ่านว่า yī
เลข 2 – 二 (èr)
ตัวเลข 2 เขียนเป็น 二 ซึ่งมีอ่านว่า èr
เลข 3 – 三 (sān)
ตัวเลข 3 เขียนเป็น 三 ซึ่งมีอ่านว่า sān
เลข 4 – 四 (sì)
ตัวเลข 4 เขียนเป็น 四 ซึ่งมีอ่านว่า sì
เลข 5 – 五 (wǔ)
ตัวเลข 5 เขียนเป็น 五 ซึ่งมีอ่านว่า wǔ
เลข 6 – 六 (liù)
ตัวเลข 6 เขียนเป็น 六 ซึ่งมีอ่านว่า liù
เลข 7 – 七 (qī)
ตัวเลข 7 เขียนเป็น 七 ซึ่งมีอ่านว่า qī
เลข 8 – 八 (bā)
ตัวเลข 8 เขียนเป็น 八 ซึ่งมีอ่านว่า bā
เลข 9 – 九 (jiǔ)
ตัวเลข 9 เขียนเป็น 九 ซึ่งมีอ่านว่า jiǔ
เลข 10 – 十 (shí)
ตัวเลข 10 เขียนเป็น 十 ซึ่งมีอ่านว่า shí
เลขภาษาจีนแบบตัวเลขอารบิก
เลขภาษาจีนแบบตัวเลขอารบิกเป็นรูปแบบของการเขียนเลขโดยใช้ตัวเลข 0-9 เพื่อสร้างเลขแต่ละตัว โดยจะมีการอ่านเลขโดยใช้คำพ้องชื่อตัวเลขดังเช่นกัน ดังนี้
เลข 11 – 十一 (shí yī)
ตัวเลข 11 เขียนเป็น 十一 ซึ่งมีอ่านว่า shí yī
เลข 12 – 十二 (shí èr)
ตัวเลข 12 เขียนเป็น 十二 ซึ่งมีอ่านว่า shí èr
เลข 13 – 十三 (shí sān)
ตัวเลข 13 เขียนเป็น 十三 ซึ่งมีอ่านว่า shí sān
เลข 14 – 十四 (shí sì)
ตัวเลข 14 เขียนเป็น 十四 ซึ่งมีอ่านว่า shí sì
เลข 15 – 十五 (shí wǔ)
ตัวเลข 15 เขียนเป็น 十五 ซึ่งมีอ่านว่า shí wǔ
เลข 16 – 十六 (shí liù)
ตัวเลข 16 เขียนเป็น 十六 ซึ่งมีอ่านว่า shí liù
เลข 17 – 十七 (shí qī)
ตัวเลข 17 เขียนเป็น 十七 ซึ่งมีอ่านว่า shí qī
เลข 18 – 十八 (shí bā)
ตัวเลข 18 เขียนเป็น 十八 ซึ่งมีอ่านว่า shí bā
เลข 19 – 十九 (shí jiǔ)
ตัวเลข 19 เขียนเป็น 十九 ซึ่งมีอ่านว่า shí jiǔ
เลข 20 – 二十 (èr shí)
ตัวเลข 20 เขียนเป็น 二十 ซึ่งมีอ่านว่า èr shí
เลข 21 – 二十一 (èr shí yī)
ตัวเลข 21 เขียนเป็น 二十一 ซึ่งมีอ่านว่า èr shí yī
เลข 22 – 二十二 (èr shí èr)
ตัวเลข 22 เขียนเป็น 二十二 ซึ่งมีอ่านว่า èr shí èr
เลข 23 – 二十三 (èr shí sān)
ตัวเลข 23 เขียนเป็น 二十三 ซึ่งมีอ่านว่า èr shí sān
เลข 24 – 二十四 (èr shí sì)
ตัวเลข 24 เขียนเป็น 二十四 ซึ่งมีอ่านว่า èr shí sì
เลข 25 – 二十五 (èr shí wǔ)
ตัวเลข 25 เขียนเป็น 二十五 ซึ่งมีอ่านว่า èr shí wǔ
เลข 26 – 二十六 (èr shí liù)
ตัวเลข 26 เขียนเป็น 二十六 ซึ่งมีอ่านว่า èr shí liù
เลข 27 – 二十七 (èr shí qī)
ตัวเลข 27 เขียนเป็น 二十七 ซึ่งมีอ่านว่า èr shí qī
เลข 28 – 二十八 (èr shí bā)
ตัวเลข 28 เขียนเป็น 二十八 ซึ่งมีอ่านว่า èr shí bā
เลข 29 – 二十九 (èr shí jiǔ)
ตัวเลข 29 เขียนเป็น 二十九 ซึ่งมีอ่านว่า èr shí jiǔ
เลข 30 – 三十 (sān shí)
ตัวเลข 30 เขียนเป็น 三十 ซึ่งมีอ่านว่า sān shí
เลข 31 – 三十一 (sān shí yī)
ตัวเลข 31 เขียนเป็น 三十一 ซึ่งมีอ่านว่า sān shí yī
เลข 32 – 三十二 (sān shí èr)
ตัวเลข 32 เขียนเป็น 三十二 ซึ่งมีอ่านว่า sān shí èr
เลข 33 – 三十三 (sān shí sān)
ตัวเลข 33 เขียนเป็น 三十三 ซึ่งมีอ่านว่า sān shí sān
เลข 34 – 三十四 (sān shí sì)
ตัวเลข 34 เขียนเป็น 三十四 ซึ่งมีอ่านว่า sān shí sì
เลข 35 – 三十五 (sān shí wǔ)
ตัวเลข 35 เขียนเป็น 三十五 ซึ่งมีอ่านว่า sān shí wǔ
เลข 36 – 三十六 (sān shí liù)
ตัวเลข 36 เขียนเป็น 三十六 ซึ่งมีอ่านว่า sān shí liù
เลข 37 – 三十七 (sān shí qī)
ตัวเลข 37 เขียนเป็น 三十七 ซึ่งมีอ่านว่า sān shí qī
เลข 38 – 三十八 (sān shí bā)
ตัวเลข 38 เขียนเป็น 三十八 ซึ่งมีอ่านว่า sān shí bā
เลข 39 – 三十九 (sān shí jiǔ)
ตัวเลข 39 เขียนเป็น 三十九 ซึ่งมีอ่านว่า sān shí jiǔ
เลข 40 – 四十 (sì shí)
ตัวเลข 40 เขียนเป็น 四十 ซึ่งมีอ่านว่า sì
แบ่งปัน 11 ตัวเลข ภาษา จีน 1 100
See more here: shoptrethovn.net
Learn more about the topic ตัวเลข ภาษา จีน 1 100.